ประเทศไทยอยู่ที่ไหน?
“คุณจะถูกส่งไปที่ประเทศไทย” ปลายสายที่โทรเข้ามากล่าว เสียงของเธอคล้ายลังเลปนขอร้อง เหมือนเธอหวังว่าการโทรแจ้งข่าวผมในครั้งนี้จะเป็นความจริงเสีย ‘เอาเถอะ ตามสบาย’ ผมคิดในใจและความเงียบก็คือคำตอบของผม เป็นครั้งที่สามแล้วในรอบสามเดือนที่ผมต้องรับสายเช่นนี้ โทรมาแจ้งแล้วยกเลิก ก็คงเหมือนที่ผ่านมา ครั้งนี้ก็คงถูกยกเลิกอีก ผมคงไม่บ้ารีบพุ่งตรงไปยังห้องสมุดเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยเหมือนที่ผมเคยทำตอนได้รับสายแบบสองครั้งที่แล้วมาหรอกนะ
เมื่อผมอ่านประโยคสุดท้ายอีกครั้งและคิดถึงการไปห้องสมุดเพื่อค้นหาหนังสือ มันอดจะกระทบใจไม่ได้ที่โลกเราได้เปลี่ยนไปอย่างมากตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีใครไปห้องสมุดเพื่อค้นหาหนังสืออีกแล้วนอกจากนักเรียนที่จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลหนังสือเรียนของมหาลัย แต่ยังไม่มีอะไรเทียบได้การนั่งบนเก้าอี้ที่สุดสบายในห้องสมุดแล้วค่อยๆเปิดหนังสืออ่านอย่างช้าๆ เลื่อนอ่านย่อหน้าต่อย่อหน้าอย่างไม่เจาะจงและปล่อยจินตนาการไปกับตัวอักษร หรือบางครั้งความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นก็ผุดขึ้นระหว่างการอ่านหนังสือเล่มแรกนั่นแหละ จนต้องลุกขึ้นไปค้นหาหนังสือเล่มใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนั้นเพื่อค้นหาต่อ แล้วกลับมานั่งในมุมโปรดที่เงียบสงบ หรือแม้แต่การปล่อยใจไปกับหนังสือภาพที่ไร้ตัวอักษรหรือข้อความบรรยายใดๆ ภาพพิมพ์สีสันสดใสบนกระดาษมันเงาของหนังสือเล่มเขื่องที่เหมาะกับใช้ประดับห้องนั่งเล่น ดังประโยคคุ้นเคยที่เรารู้จักดี “A picture speaks a thousand words.” และบางครั้งภาพถ่ายก็บรรยายความรู้สึกของจินตนาการที่ไร้ขอบเขตได้ดีและมากเกินกว่าที่จะบัญญัติเป็นคำพูดได้
คุณปล่อยใจได้ตามสบาย จะอ่านแล้วใช้จินตนาการอย่างไร แค่ไหน เกี่ยวกับสถานที่และประเทศเหล่านั้นก็ได้ ความคิดคุณเปิดกว้างไปตามตัวอักษรและรูปภาพที่เห็น มันอาจจะจริงหรือไม่จริง ไม่มีอะไรมากำหนดว่าความคิดและจินตนาการของคุณถูกหรือผิด ตราบใดที่เท้าคุณยังไม่ได้สัมผัสผืนแผ่นดินจริงของสถานที่และประเทศเหล่านั้น มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะฝันไปให้ไกลและเท่าที่คุณต้องการ ไม่เหมือนทุกวันนี้ซึ่งเป็นแค่การท่องข้อมูลออนไลน์จิ้มนิ้วพิมพ์ชื่อประเทศ และข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างก็ปรากฏอยู่บนหน้าจอ มีเวปเป็นหมื่นเป็นพันที่มีข้อมูลที่คุณจะต้องค่อยๆตรวจและเสาะหากว่าครบถ้วน และไม่หลงเหลือเวลาจะได้ใช้จินตนาการฝันถึงดินแดนที่ไม่รู้จัก เพราะสมัยนี้ใครๆก็ออนไลน์และตั้งตนเป็นนักวิจารณ์ พวกเราไม่มีอินเตอร์เน็ตในสมัยนั้นและเราก็แทบจะไม่มีคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ก็ช่างขนาดใหญ่ยักษ์ น่าตลกที่สามสิบปีสามารถสร้างความแตกต่างได้ถึงเพียงนี้
ครั้งที่สาม…
และสายที่โทรเข้านี้ก็กำลังบอกว่าผมจะได้เดินทางไปประเทศไทย นี่เป็นครั้งที่สามแล้วในเดือนพฤษภาคมที่ผมได้รับสายแจ้งเรื่องงานและจุดหมายที่จะไป รอบแรกบอกผมว่าผมจะได้ไปปาปัวนิวกินี ซึ่งถูกยกเลิกไปเพราะเหตุผลความไม่มั่นคงทางการเมืองของประเทศ รอบสองก็บอกว่าจะได้ไปหมู่เกาะสวรรค์แห่งนิวฮีบริดส์ วาเนาตู และแถบประเทศฟิจิ ผมจะได้ทำงานเป็นนักข่าวสายเกษตรของสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง รายงานข่าวทางการเกษตรเกี่ยวกับวิธีการเกษตรแบบใหม่ที่เริ่มนำมาประยุกต์ใช้บนหมู่เกาะ ภาษาฝรั่งเศสของผมไม่ดีพอ ผมถูกบอกว่า ‘มันก็มักจะพังแบบนี้แหละ แต่ชีวิตก็แบบนี่ใช่มั้ยล่ะ’ ผมไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเดินทางสิบไมล์ไปยังห้องสมุดที่ใกล้ที่สุดในรอบที่สามเพื่อจะมองหาข้อมูลประเทศที่อยู่ไหนก็ไม่รู้อย่างประเทศไทย จะไทธ์แลนด์ ไทแลนด์ หรือชื่ออะไรก็ตามที่ผู้คนจะเรียก หนึ่งอาทิตย์ถัดมา ผมเสียใจที่ไม่ได้หาข้อมูล แต่หวังว่าการปฐมนิเทศน์สามวันที่ผมกำลังจะไปเข้าฟังนั้นจะให้คำตอบและข้อมูลทุกอย่างแก่ผม
ปฐมนิเทศน์เกี่ยวกับตะวันออก
การปฐมนิเทศน์เป็นการเริ่มต้นที่ดี อย่างไรก็ตามมีข้อมูลแค่ไม่กี่อย่างที่ผมจำได้หนึ่งอาทิตย์หลังจากการปฐมนิเทศน์ เหมือนงานประเภทนี้โดยทั่วไปที่เราเข้าร่วม มักจะจำได้แต่ข้อมูลที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเลย ผมก็เหมือนกัน และโชคร้ายคือคำในภาษาไทยที่แสดงถึงการให้ความนับถือที่ใช้เมื่อจบประโยค “ครับ” เป็นภาษาอังกฤษ และแม้ฟังดูไม่สุภาพ มันก็ดูจะเป็นเรื่องยากที่จะห้ามเด็กหนุ่มอย่างพวกเราไม่ให้เอาคำเหล่านั้นมาล้อเลียน
ยิ่งกว่านั้น พวกเรายังได้เรียนรู้ว่าทุกคนใส่กระโปรง ทั้งผู้ชายที่ใส่สิ่งที่เรียกว่า “โสร่ง” และผู้หญิงใส่ “ผ้าถุง” และตามด้วยการไปเข้าห้องน้ำซึ่งต้องใช้ทักษะยิมนาสติกเพราะไม่มีโถส้วมแบบตะวันตกแต่เป็นโถส้วมสี่เหลี่ยมแบบนั่งยองแนวตะวันออก พวกเราหัวเราะคิกคักและขำเพราะพวกเราคิดว่าจะทรงตัวยังไงขณะปฏิบัติกิจ คุณอาจจะขำพวกเราแต่เราไม่ได้ฝึกมาตั้งแต่เกิด และมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะต้องนั่งทำมุมให้องศาพอดีกับข้อเท้าขณะนั่งยองและทรงตัวให้ได้ พวกเราหลายคนมองหาที่ยึดข้างหลังเพื่อกันหงายหลัง ใช่ ตอนนี้คุณหัวเราะเต็มที่ได้แล้ว
เตรียมกระเป๋า เพื่อไปอยู่ 2 ปี
ไม่กี่อาทิตย์หลังจบการฝึกที่ออตตาวา เอกสารก็มาถึง เอกสารตรวจสุขภาพ ตรวจฟัน เอกสารรายการสิ่งของต่างๆ แบบฟอร์มการจ่ายเงิน แบบฟอร์มจากธนาคาร ตั๋วเครื่องบิน พาสสปอร์ต ใบสมัครวีซ่า วัคซีนป้องกันไข้เหลืองและอหิวาตกโรค ข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นเกี่ยวกับประเทศ ตลอดจนการเมืองและวัฒนธรรมของประเทศไทย และรายการที่ต้องเช็ครอบสุดท้ายของสิ่งที่ต้องนำติดตัวกับการไปอยู่ในประเทศใหม่ถึงสองปี แต่มันช่างยากและงงงวยยิ่งนัก คุณจะแพ็คอย่างไรกับการเดินทางไปอยู่สองปี คุณได้รับอนุญาตขนสัมภาระได้เจ็ดสิบกิโล คุณได้หยุดพักที่บรัสเซลส์สามวัน และคุณก็มีพวกกระเป๋าสัมภาระเหล่านั้น คนปกติสามารถหิ้วกระเป๋าเดินทางได้สองใบ ยัดเสื้อผ้าเท่าที่สามารถทำได้แล้วก็อะไรเพิ่มอีกนิดหน่อย แล้วอะไรที่ผมจะอัดลงไปได้ในกระเป๋าเดินทางสองใบแบบหิ้วหรือสะพายหลังแบบนั้น
ไม้ตีเบสบอลและถุงมือ แจ็กเก็ตสำหรับฤดูหนาวสองตัวและเสื้อหนาว กางเกงขาสั้น พวกเสื้อยืด แล้วก็พวกเสื้อเชิ้ตดีๆที่มี กางเกงยีนส์สามตัว บู๊ตคุณภาพดีหนึ่งคู่ คาสเซทเทปบรรจุเพลงจากอัลบั้มโปรด สมุดบันทึก ปากกา กระดาษเขียนจดหมาย ซอง และรูปถ่ายอีกจำนวนมาก
เครื่องบินออกตรงเวลา และการหยุดพักระหว่างนั้นอย่างไม่มีปัญหาอะไร กระเป๋าเดินทางไม่ได้สูญหาย แล้วก็ไม่ได้มีเรื่องยุ่งยากให้ปวดหัวมากมายในการลากจูงกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ที่อัดแน่นจนแทบล้นระหว่างเส้นทางในยุโรปและบนรถไฟ แต่ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้างเมื่อผมย่างเท้าก้าวเข้าสู่ดินแดนที่มีชื่อว่า “ประเทศไทย”
Can’t wait to read more stories of you.