วัฒนธรรมที่แตกต่าง: โอกาสที่จะเรียนรู้

a friday night with friends in thailand

คืนวันศุกร์กับเพื่อน ๆ

ความแตกต่างทางวัฒนธรรม

ถึงแม้จะไม่มีเรื่องผีๆ การพบปะในช่วงค่ำก็ยังสรวลเฮฮา เรื่องเล่าต่างๆ เรื่องจริงที่เกิดขึ้น เรื่องเม้าท์ สาระที่ถกเถียง และสำเนียงท้องถิ่นที่เพิ่มสีสัน อัดแน่นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานและรอยยิ้ม ภาษาที่หลายครั้งผมฟังไม่รู้เรื่อง และนั่นก็ยิ่งเพิ่มความสนุกสนาน โดยไม่ต้องคำนึงถึงความหรูหราลึกซึ้งอะไร งานสังสรรค์ที่ดีที่สุดคือเมื่อเหล่าหนุ่มๆนั่งล้อมวงเมา และสาวๆนั่งเกาะกลุ่มกันอยู่โต๊ะถัดไปและเริ่มจะเมาเช่นกัน และในบางช่วงระหว่างนั้นหนุ่มน้อยใจกล้าคนไหนสักคนเริ่มแซวสาวๆที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ เงียบอยู่สองสามวินาที และในที่สุดสาวๆเหล่านั้นก็จะโต้ตอบด้วยคำพูดอะไรสักอย่างที่สั้นกระชับ ไม่ถึงกับหยาบโลนแต่ก็พอจะทำให้หนุ่มสามหามนั่นสำอึกและเงียบปากไปได้ เมื่อเธอโต้กลับว่า เขานั้นก็ไม่ต่างจากแตงกวาที่หด และนี่ก็เป็นการเริ่มต้นการสนทนาที่ผลัดกันแซวไปมาอย่างฉันมิตร ที่บางช่วงของบทโต้ตอบนั้นทำเอาหูแทบจะไหม้กับความหมายที่ซ่อนนัย

มันมีหลายอย่างทางวัฒนธรรมที่ต้องปรับตัวกับผู้ที่ไม่รู้เมื่อครั้งแรกเริ่มเข้าสังคมกับคนท้องถิ่น อย่างหนึ่งที่แน่นอน ประตูเตี้ยกว่าประเทศตะวันตกเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องก้มศรีษะเมื่อเดินผ่านซึ่งถือว่าเป็นพร เพราะมันแสดงถึงการให้ความเคารพเจ้าบ้าน เมื่อคุุณพยายามไหว้ทักทายเขาขณะที่กำลังก้าวเข้าบ้าน

carving a temple door in thailand

แกะสลักประตูวัดในประเทศไทย

ถอดรองเท้า!!!

กฎที่สองคือการเรียนรู้ว่าต้องถอดรองเท้าวางไว้ที่บันไดก่อนขึ้นชั้นบน ซึ่งที่จริงก็ไม่มีการสอนกันตรงๆแต่คือการเรียนผิดเรียนถูก มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะปีนขึ้นบันไดด้วยการใส่รองเท้าไซส์สิบสอง ดังนั้นวิธีเดียวคือต้องถอดมันทิ้งไว้ ต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้าน และบ้านในต่างจังหวัดส่วนใหญ่มักจะมีอ่างเล็กๆข้างบันได ใส่น้ำไว้ให้เราแช่ล้างเท้าก่อนขึ้นชั้นบน ถึงแม้ปัจจุบันวัฒนธรรมเหล่านั้นจะเลือนหายไปแล้วจากสังคม แต่เราก็ยังพอเห็นร่องรอยของวิถีในอดีตของอ่างน้ำเล็กๆแบบนี้ การล้างเท้าแบบนี้เหมาะเจาะกันดีกับการที่คุณใส่รองเท้าแตะที่เปรอะฝุ่นทั้งวัน หากคุณใส่รองเท้าหนังพร้อมถุงเท้า มันก็ยุ่งยากจึ้นเพราะต้องถอดทั้งรองเท้าและถุงเท้า แล้วมันก็ทำให้คุณได้บทเรียนและเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะในวันถัดมาแทน

ก้าวข้ามธรณีประตูที่วัด

ยังมีความจริงที่ว่าหลายบ้านในชนบทห่างไกลตั้งสำรับอาหารบนเสื่อ แล้วนั่งขัดสมมาธิล้อมวงกันรับประทานอาหาร เป็นความไม่สุภาพหรือเหมาะสมที่จะนั่งเท้าชี้ไปที่อาหารหรือเดินข้ามสำรับ จะว่าไปแล้วเราควรเรียนรู้ตั้งแต่แรกเริ่มว่าไม่ควรเดินข้ามอะไรทั้งสิ้นนอกจากขอบธรณีประตูทางเข้าอุโบสถ มันเป็นกฏเหล็กที่ห้ามข้ามเครื่องมือสำหรับใช้ทำงานของผู้อื่น ช่างไม้จะรู้สึกโกรธเคืองหากคุณเดินข้ามกล่องเครื่องมือของเขา เช่นเดียวกับที่ศิลปินจะวาดภาพผิดเพี้ยนหากคุณเดินข้ามแปรงและสีน้ำมันของเขา แต่ในทางกลับกัน เราต้องข้ามธรณีประตูอุโบสถถึงแม้มันจะหนาและสูงแค่ไหน เพราะการเหยียบธรณีประตูนั้นจะเป็นการนำพาบาปและสิ่งชั่วร้ายจากภายนอกติดตัวเข้าไปสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มันมีการแสดงออกทางวัฒนธรรรมอีกมากมายที่ต้องใช้เวลาสักพักในการเรียนรู้และทำความคุ้นเคย ยังดีที่คนไทยชอบที่จะให้อภัย

คนขับรถในกรุงเทพมองคนเดินเท้าเป็นแค่หมุดโบว์ลิ่ง …

 

a pedestrian obstacle course, sunset traffic in bangkok

ถนนสาทรในเวลาเร่งด่วน สำหรับคนเดินเท้าเป็นอุปสรรค

 

การกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจนำไปสู่ความรู้สึกไม่สบาย … และอารมณ์ขัน

ถึงแม้ว่าการนั่งขัดสมาธิบนพื้นจะเป็นเรื่องยากของผู้มาเยือนที่ไม่ใช่ชาวเอเซีย แต่การเสิร์ฟเครื่องดื่มน้ำเมาระหว่างมื้ออาหารก็ดูจะทดแทนการเจ็บปวดนั้นได้เป็นอย่างดี และหลังมื้อค่ำการนั่งท่ายากนั่นก็เหมือนจะไม่ลำบากอีกต่อไปเมื่อได้จิบเหล้าที่ชาวบ้านกลั่นเอง สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความเป็นกันเองมากและมักจะสัมผัสตัวบ่อยๆ ซึ่งอาจจะทำให้ชาวตะวันตกผู้มาเยือนรู้สึกแปลกๆและไม่คุ้นชินนักในช่วงแรกๆที่ได้สมาคมกัน ผมต้องยอมรับว่าครั้งแรกที่มีใครสักคนเอามือวางบนหน้าขาผมเพื่อที่เขาจะได้โน้มตัวมาฟังคนที่นั่งถัดจากผมได้ถนัดขึ้นทำให้ผมรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ผมก็เงียบไม่พูดอะไรและหัดที่จะค่อยๆเรียนรู้และปรับตัว

สามสิบปีในเมืองไทยผมปรับตัวได้เป็นอย่างดีกับมิตรสหายและคนรู้จัก ผมซึมซับพฤติกรรมและวิถีทางวัฒนธรรมต่างๆได้อย่างชัดเจน ผมปรับตัวกับสังคมไทยได้ดีมากแค่ไหนน่ะรึเมื่อผมได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านที่แคนาดาเมื่อไม่นานมานี้ ผมเอามือแตะเข่าเพื่อนของผมขณะโน้มตัวไปฟังเพื่อนนักเรียนอีกคนในระหว่างอภิปรายกลุ่ม การแสดงท่าทางเหล่านี้ในไทยถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ในสังคมตะวันตกนั้น การกระทำเหล่านั้นอาจมีผลที่ไม่คาดหวัง สิ่งที่น่าตลกก็คือพฤติกรรมที่ผมติดมาจากการคบหากับเพื่อนคนไทยมายาวนานก็เมื่อผมไปเที่ยวนิวยอร์ก ตอนข้ามถนนผมก้มหัวขอบคุณรถที่หยุดให้ผมข้ามตรงทางม้าลาย เพื่อขอบคุณที่เขายอมให้ผมข้ามถนนอย่างปลอดภัย มันคือปฏิกิริยาตอบรับจากจิตใต้สำนึก โดยอัตโนมัติเมื่อใดก็ตามที่มีรถสักคันชะลอความเร็วลงในกรุงเทพให้ผมข้ามถนน การสำนึกคุณกับความกรุณาของเขาที่สละเวลาสองวินาทีของชีวิตที่ยุ่งยากในวันที่วุ่นวาย เพื่อยอมให้ชายผู้ต่ำต้อยได้ข้ามถนนในขณะการจราจรคับคั่ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ขับขี่ยวดยานมักเร่งความเร็ว และไม่มีเสียหรอกที่จะมาเสียสละเสี้ยววินาทีที่ล้ำค่า ในทางกลับกันสำหรับพวกเขาเหล่านั้น ชีวิตคุณช่างไร้ค่าไม่ต่างจากพินโบวลิ่งที่ระเกะระกะขวางทางอยู่

Posted in ประเทศไทย, เรื่องราว.

เคนอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปีและได้เดินทางอย่างกว้างขวาง เขาสนุกกับการอ่านการเขียนการถ่ายภาพ, อาหาร, และการแบ่งปันเรื่องราว