พลาดโอกาสเรียนซัลซ่า
การผจญภัยในเวเนซูเอลาจบสิ้น ผมเดินทางต่อโดยบินจากคูคูตาในโคลอมเบีย ผ่านโบโกตาไปยังเมืองคาลิ กว่าเครื่องจะลงก็ดึกแล้ว แล้วผมก็ไม่ได้เตรียมแผนที่จะเที่ยวที่นี่เลย จะว่าไปผมควรหยุดพักที่เมืองนี้ อย่างน้อยหนึ่งหรือสองวันเพื่อหัดเรียนเต้นเพราะคาลิได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวง ของการเต้นซัลซาของโคลอมเบีย แต่เมื่อนึกถึงตารางการเดินทาง ที่ล่าช้ากว่ากำหนดเดิมแล้ว ผมจึงตัดสินใจที่จะไม่หยุดพัก และในวันถัดมาผมก็ขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองในหุบเขาเล็กๆชื่อพาสโต ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนเอกวาดอร์ การเดินทางค่อนข้างยาวนาน แต่วิวสองข้างทางสวยงามระรื่นตายิ่งนัก เช่นเดียวกับเส้นทางจากโบโกตา สู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ผมคงต้องกลับมาแถบนี้อีกครั้ง แต่รอบหน้าอาจจะท่องเที่ยวแบบปั่นจักรยานแทน
อุทยานแห่งชาติที่เล็กที่สุดของโคลัมเบีย
พาสโตเป็นเมืองขนาดเล็กที่มีจตุรัสเมืองเล็กๆ มีโบสถ์และตึกเก่าสวยๆ ที่คุ้มค่าต่อการเยี่ยมชม รวมถึงพิพิธภัณฑ์ทองคำ ทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้ง ของหนึ่งในมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ที่ดีที่สุดในประเทศ ผมเดินสำรวจเมืองในช่วงบ่ายที่มาถึงและเข้าพักในโฮสเต็ลที่น่ารัก และแสนสะดวกสบายแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองเก่า วันถัดมาเป็นวันอาทิตย์และถึงแม้ว่าอากาศจะค่อนข้างเย็นและเปียกชื้น ผมนัดเจอเพื่อนของผมและเที่ยวหนึ่งวันไปยังทะเลสาบและเกาะที่ชื่อลากูนาเดอลาโคจา และไอลาเดอลาโคโรตา
ทะเลสาบตั้งอยู่ริมทุ่งหญ้าและไม้พรรณที่เขียวขจี และการยืนมองจากเกาะกลับไปยังเนินเขาที่ล้อมรอบทะเลสาบ ช่างเป็นวิวที่งดงามเกินบรรยาย ตัวเกาะเองนั้นเป็นอุทยานแห่งดอกไม้นานาพรรณ และสัตว์ป่าสงวนพื้นเมืองของประเทศโคลอมเบียที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี โดยมีพื้นที่ประมาณห้าสิบเอเคอร์ เกาะมีทางเดินยาวประมาณห้าร้อยเมตร จากฝากหนึ่งไปยังอีกฝากหนึ่งของเกาะผ่านป่าดงดิบในเขตร้อนชื้น โดยจบเส้นทางที่จุดชมวิวที่มองข้ามทะเลสาบ สำหรับนักเดินทางแสวงธรรม มีวิหารขนาดเล็กชื่อแม่หญิงของพระเจ้า (Shrine of Our Lady of Lourdes) บนแผ่นดินใหญ่ นาวาคลองก่อรวมตัวเป็นเสมือนเมืองเวนิสน้อยๆที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ ร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักต่างๆ การเดินทางมายังที่นี่จากเมืองพาสโตสะดวกมาก แค่ขึ้นรถตู้โดยสารและจ่ายเพียงสามเหรียญ เรือข้ามฝากไปยังเกาะก็ยิ่งง่าย แล้วแนะนำอย่างยิ่งกับการใช้เวลาพักผ่อนอย่างน้อยหนึ่งหรือสองชั่วโมงบนเกาะ (อย่าลืมจ้างมัคคุเทศก์แนะนำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม)
ข้ามพรมแดน ข้ามประเทศ เพื่อสำรวจเอกวาดอร์ต่อไป
ขากลับจากเกาะ เราเดินเที่ยวต่อในเมืองพาสโตก่อนที่ผมจะต้องเริ่มจัดสัมภาระ เตรียมพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้นเพื่อข้ามชายแดนเอกวาดอร์ ครั้งนี้ผมไม่คาดว่าจะมีปัญหาใดๆ ไม่ว่าจะตอนข้ามชายแดนหรือปัญหาจากรถโดยสารที่จะพาผมมุ่งสู่ควิโต จากพาสโตไปยังอิพิเอลิสซึ่งเป็นระยะทางประมาณแปดสิบกิโลเมตร และจากอิพิเอลิสไปควิโตอีกประมาณสองร้อยห้าสิบกิโล เนื่องจากเป็นจุดที่ใกล้ที่สุดของอิพิเอลิส เมืองพาสโตจึงเป็นจุดหยุดเพื่อจับจ่ายซื้อของ แหล่งสุดท้ายของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเอกวาดอร์หรือนักท่องเที่ยวที่มาจากเอกวาดอร์ ที่อิพิเอลิสการเปลี่ยนรถนั้นจำเป็น จากรถโดยสารมาเป็นรถตู้ และคุณต้องอย่าลืม ที่จะเปลี่ยนมาใช้แท็กซี่ เพราะรถตู้จะแล่นตรงต่อไปชายแดนเอกวาดอร์ โดยผ่านตึึกตรวจคนเข้าเมืองของโคลอมเบีย เมื่อผมลงจากรถตู้ ผมถูกถามว่าผ่านพิธีการขาออกจากโคลอมเบียอย่างถูกต้องรียังซึ่งผมไม่ได้ทำเช่นนั้น ผมจึงต้องเดินย้อนกลับไปที่ตึกตรวจคนเข้าเมืองซึ่งห่างไปอีกสองร้อยเมตร ของอีกฝากสะพาน การผ่านพิธีการขาออกประเทศโคลอมเบียเสร็จอย่างสะดวกและรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เดินข้ามสะพานกลับมาอีกสองร้อยเมตรเพื่อมายังฝั่งประเทศเอกวาดอร์ซึ่งพิธีการก็ไม่ยุ่งยากถึงแม้ว่าจะแม้ช้าบ้างเล็กน้อยและในที่สุดผมก็ได้ถึงประเทศเอกวาดอร์ ในเวลาบ่ายสองโมง และนั่งแท็กซี่ไปยังทัลแคนเพื่อขึ้นรถโดยสารต่อไปยังควิโต
ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยความราบรื่ จนถึงท่ารถในควิโต ผมไม่แน่ใจนักว่าเจ้าของบ้านที่ผมจะเข้าพักอยู่ที่ไหน หรือผมมาถูกที่หรือเปล่า ผมเดินหาซื้อซิมการ์ดมือถือใหม่เพื่อจะต่อสัญญาณโทรหา และขณะที่ผมเริ่มพิมพ์ข้อความ เพื่อยืนยันการมาถึงจุดหมายปลายทางและหาหนทางไปยังบ้านพัก มือถือผมก็ส่งเสียงสัญญาณรับข้อความก่อนที่จะดับไป ทั้งที่ยังมีแบตเหลืออย่างน้อยยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ พักดื่มกาแฟสักแก้วแล้วหาที่ชาร์ตแบต ในที่สุดผมก็สามารถจัดการให้มือถือกลับมาทำงานได้ เพื่อส่งข้อความที่จำเป็นออกไป และไม่นานนักผมก็ได้ข้อความตอบกลับ และบอกเส้นทางไปยังบ้านพักอย่างละเอียด เพราะมันเริ่มจะค่ำแล้วผมจึงกระโดดขึ้นแท็กซี่แทนที่จะคลำหาทางไป ด้วยการต่อรถโดยสาร ขณะที่นั่งอยู่ในรถผมมองวิวใหม่รอบตัว แล้วก็นึกถึงสิ่งต่างๆ สถานที่ที่ผมได้เห็น ได้เรียนรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับ ตลอดการเดินทางในหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา และได้ซับซาบว่าผมได้มีช่วงเวลาที่ดีและยอดเยี่ยมที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิต