รถไฟไป Machu Picchu

ken on train to machu picchu

เดินทางโดยรถไฟ – Ollantaytambo ไปยัง Aguas Calientes, Peru

การเดินทางด้วยรถไฟที่ยอดเยี่ยม

มีหลายวิธีที่จะเดินทางไปมาชูปิกชู ตั้งแต่จากขับรถไปเองจนถึงปั่นจักรยาน หรือเดินเขาไปตามเส้นทางการเดินป่าของอินคา อีกทางเลือกที่นิยมคือการนั่งรถไฟเที่ยวเดียวหรือไปกลับจากออยแลนเทแทมโบไปอากูแอสคาเลียนเต (เคยมีการบริการจากเมืองที่ใกล้คูซโกกว่า แต่ดูเหมือนเส้นทางนั้นจะหยุดให้บริการ ความจริงที่ว่าออยแลนเทแทมโบเป็นจุดท่องเที่ยวหลักที่ตั้งอยู่ห่างจากคูซโกเพียงชั่วโมงครึ่งด้วยการโดยสารรถประจำทาง) รถไฟวิเศษมาก และไม่ว่าครั้งไหนก็ตามที่ผมมีโอกาสเดินทางโดยสารรถไฟผมก็มักจะทำถ้าผมมีกำลังจ่ายพอ

รถไฟไปยัง Aguas Calientes

รถไฟไปยัง Aguas Calientes

มีการเดินทางด้วยรถไฟหลายเส้นทางบนโลกนี้ที่น่ามหัศจรรย์อย่างยิ่ง และหนึ่งในแผนการเดินทางท่องเที่ยวทวีปอเมริกาใต้ของผมคือการโดยสารรถไฟ ไม่ใช่แค่ในเปรูแต่ยังรวมถึงการโดยสารรถไฟขบวนพิเศษ พาทาโกเนียเอ็กซ์เพรสในอาร์เจนตินา น่าเสียดายที่อย่างหลังผมไม่สามารถทำได้ เพราะทริป 6 วัน รวมถึงค่าโดยสารรถไฟราคาราว 1,600 เหรียญ บางทีทริปรอบต่อไปที่ผมมาเที่ยวอเมริกาใต้อีก รถไฟ Blue Train (Blauw Trein) ในแอฟริกาใต้เป็นการเดินทางที่เยี่ยมยอด หรือการเดินทางผ่านเส้นเทือกเขาร็อกกี้ในแคนาดา หนึ่งในเส้นทางที่น่าหลงใหลที่สุดในใจผม คือ ทรานส์ไซบีเรียน ด้วยการพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในขณะนี้ แทบจะเป็นไปได้ที่จะเดินทางจากสิงคโปร์ผ่านทางประเทศอื่นๆไปยังประเทศจีน และต่อไปไซบีเรีย แล้วข้ามไปรัสเซียเพื่อเชื่อมไปยังยุโรป การเดินทางอย่างนี้น่าจะกินเวลาหกเดือน แต่ผมแน่ใจว่ามันเป็นหนึ่งในทริปที่คุ้มค่า

scenery along the way

ทิวทัศน์ตลอดเส้นทาง

ทริปจากออยแลนเทแทมโบไปอากูแอสคาเลียนเตจัดบริการที่นั่งสามแบบต่างกันและราคาก็แตกต่างเช่นกันตามระดับความหรูหราที่คุณปรารถนา และถึงจะเดินทางเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

แต่ก็เยี่ยมยอด รถไฟเคลื่อนขบวนผ่านวิวทิวทัศน์ที่งดงามยิ่ง ภูเขาสูง ปกคลุมด้วยหิมะ สายน้ำเชี่ยว เย็นยะเยือก เมืองเล็กๆ เสน่ห์ที่น่าหลงใหล มันไม่ใช่ทริปที่ยาวนาน แต่ทุกครั้งที่เหลียวมอง รอบตัวเต็มไปด้วยทัศนียภาพใหม่ๆที่เหมาะแก่การเก็บบันทึกความทรงจำลงบนภาพถ่าย ออกมาบ่ายแก่แล้ว ผมถึงสถานีอากูแอสคาเลียนเตราวหกโมงเย็น และเดินทางไปโรงแรมที่พัก อากาศที่นี่ดีกว่าเพราะเราอยู่บนความกดอากาศที่ลดลงหนึ่งกิโลเมตรจาก 3,390 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในคูซโก มาเป็น 2,040 เหนือระดับน้ำทะเลที่แอกูแอสคาเลียนเต รับประทานอาหารค่ำอย่างเร็วแล้วพุ่งขึ้นเตียง เพราะพรุ่งนี้จะถูกปลุกตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง

early morning mist on the way up to machu picchu

หมอกในตอนเช้าระหว่างทางขึ้นสู่ Machu Picchu

หมอกในตอนเช้า

เสียงแหลมปลุกผมสะดุ้งตื่น ในความง่วงงุนผมกวาดมือควานหาที่มาของเจ้านาฬิกาปลุกที่กรีดร้องเสียงแหลมกระแทกโสตประสาท แต่ก็ไม่สามารถหามันเจอ เพราะเสียงแหลมที่น่าขัดใจนั่นดังมาจากโทรศัพท์ ผมยกหูขึ้นเพียงเพื่อได้ยินเสียงกริ่งระฆังดังตามด้วยเสียงที่อาจจะกำลังบอกผมว่าถึงเวลาต้องลุกแล้ว ขอบคุณ ผมลากตัวเองลงจากเตียงและในที่สุดก็ได้ลงมาข้างล่างตีห้าตามเวลานัด ฝนตกปรอยๆ สภาพอากาศที่ผมไม่ได้คาดคิด แถวเริ่มต่อเป็นทางยาวที่จุดขึ้นรถโดยสารเพื่อไปมาชูปิกชู ยังมีตั๋วให้พวกเราซื้อ และตีห้าครึ่งพวกเราก็ได้ต่อแถวที่คดยาวเป็นงูอย่างอดทนภายใต้ละอองฝนเพื่อรอให้รถมาถึง เวลาหกโมงรถคันแรกเริ่มรับผู้โดยสารขึ้นเขาไปมาชูปิกชู ถนนที่ปกคลุมด้วยหมอกลมไม่อำนวยให้พวกเรามองเห็นวิวของเมืองและป้อมปราการข้างบนนี้ นั่งอยู่ด้านหน้า ผมมองเห็นวิวที่ไม่มีที่ติจากข้างหน้าและสูงขึ้นไป แต่เท่าที่ผมสามารถเห็นได้ก็แค่ถนน ต้นไม้ และหมอกควัน นักท่องเที่ยวผู้กล้าหาญและรักการผจญภัยเดินทางขึ้นเขาด้วยการเดินเท้า เดินไปตามเส้นทางเดินป่ายาวหกกิโลเมตรโดยประมาณ และสิ่งหนึ่งที่ผมไม่แนะนำคือการเดินขึ้น เพราะมันเหนื่อยมาก (น่าจะเดินลงมากกว่าถ้าคุณมีเวลา) เส้นทางที่คดเคี้ยวพาเราขึ้นเขาที่สูงและสูงขึ้น และในที่ซึ่งหมอกจางพอที่จะเห็นวิวข้ามหุบเขา แต่มีเวลาแค่น้อยนิดที่จะชื่นชม ผ่านโค้งสุดท้ายเราก็มาถึงลานจอดรถขนาดใหญ่ที่รถโดยสารต่างๆได้ปล่อยผู้โดยสารของพวกเขาลง ผู้คนกำลังยืนรอซื้อตั๋วเข้าไปมาชูปิกชู หรือต่อแถวตรงทางเข้า

view of the mountains surrounding machu picchu

วิวภูเขาที่ล้อมรอบจาก Machu Picchu

15 ปีในการรอคอย

มรดกโลกแห่งยูเนสโก มาชูปิกชูสร้างขึ้นช่วงกลางยุคศริสต์ศักราช 1400 แต่ถูกทิ้งรกร้างเพียงชั่วศตวรรษต่อมาผลจากการบุกล้ำดินแดนของสเปน แต่น่าจะรอดจากการถูกค้นพบโดยพวกสเปนเพราะเมืองไม่ถูกทำลายหรือช่วงชิงสิ่งใดเหมือนดังเมืองอื่นๆของอินคาทั่วแคว้น ผ่านมาหลายศตวรรษ ป่าทึบกวาดกลืนเมือง ไม่ต่างจากป่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปกคลุมอังกอร์

archaeological site in the early morning

โบราณสถานในตอนเช้า

กว่าจะถึงช่วงกลางจนถึงปลายยุค 1800 (เกือบสามร้อยปีที่ถูกทิ้งร้าง) ที่สถานที่แห่งนี้ได้ถูกค้นพบอีกครั้ง การเดินทางในช่วงต้นยุค1900 ไปยังมาชูปิกชูเริ่มได้รับความนิยม และในปี 1981 รัฐบาลเปรูได้ประกาศให้มาชูปิกชูและพื้นที่โดยรอบเป็นอุทยานแห่งประวัติศาสตร์ ตั้งแต่กลางปี 2017 กฏข้อบังคับใหม่ได้ถูกบัญญัติขึ้น โดยการจำกัดจำนวนผู้มาเยือนเป็น 6,000 คนต่อวันโดยประมาณ โดยแบ่งเป็น 3,500 คนในช่วงเช้าถึงเที่ยง และอีก 2,700 คนในช่วงบ่าย เป็นการดีที่สุดที่วางแผนล่วงหน้าก่อนที่จะผิดหวัง

เจ็ดโมงเช้าแถวเริ่มขยับและถูกแบ่งเป็นกลุ่มโดยผู้นำทัวร์ พวกเราเดินผ่านแผงกั้นอัตโนมัติ ก้าวเข้าสู่เมืองในหมอกที่มีชื่อเสียงและถูกบันทึกภาพโบราณสถานมากที่สุดแห่งทวีปอเมริกาใต้

 

 

Posted in อเมริกาใต้, เปรู, เรื่องราว and tagged , , , , , .

เคนอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปีและได้เดินทางอย่างกว้างขวาง เขาสนุกกับการอ่านการเขียนการถ่ายภาพ, อาหาร, และการแบ่งปันเรื่องราว