เมือง Inca เมืองในเมฆ
หมอกเคลื่อนตัว และทัศนียภาพก่อนหน้าที่ถูกบดบังก็ปรากฎให้เห็นอีกครั้งเมื่อหมอกเคลื่อนไปที่อื่น ตลอดหนึ่งชั่วโมงถัดมาจากนั้น ไกด์นำพวกเราสำรวจจุดต่างๆของโบราณสถาน อธิบายวัตถุประสงค์ของแต่ละสถาปัตยกรรมที่แตกต่างภายในโบราณสถาน ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับมาชูปิกชู และจึงไม่พยายามอธิบายว่าหลากหลายวัตถุประสงค์ของการสร้างคืออะไร แต่ผมจะนำคุณไปยังเพจของยูเนสโกโดยตรง (UNESCO page http://whc.unesco.org/en/list/274) รวมถึงบทความจากเนชันแนลจีโอกราฟิก (a National Geographic article http://www.nationalgeographic.com/travel/world-heritage/machu-picchu/)
ชีวิตไม่ได้เป็นรายการตรวจสอบและ Machu Picchu ไม่ใช่จุดหมายที่ ‘ขูดออก’จากรายการช้อปปิ้ง
พื้นที่ประกอบด้วยสามโครงสร้างหลัก เดอะอินติฮัวตานา (แท่งหินแห่งศาสนบูชาที่เกี่ยวเนื่องกับนาฬิกาดาราศาสตร์และปฏิทินอินคา) วัดแห่งสุริยะ และห้องแห่งสามบัญชร เกือบสองร้อยอาคารปลูกสร้างบนพื้นที่ มองเห็นคันนาแบบดั้งเดิม ที่ก่อขึ้นเพื่อการเกษตรกรรม ผมแน่ใจว่าคุณเคยได้เห็นภาพถ่ายที่น่าอัศจรรย์ของที่นี่ ในที่สุดผมก็ได้มาเยือน เกือบสิบห้าปีจากทริปเปรูครั้งแรก และผมพลาดที่จะมาที่นี่ในครั้งนั้น มันยากที่จะอธิบายว่าผมคิดหรือรู้สึกอย่างไร สำหรับบางคนความรู้สึกเหมือนได้ค้นพบการแสวงหาตัวตน ประหนึ่งเดินทางถึงศาสนสถานแห่งการหยั่งรู้ และต้องมนต์จังงังดั่งถูกปลุกวิญญาณ ส่วนคนอีกกลุ่มผมว่าไม่ต่างจากการกากบาทบัญชีรายการ ‘bucket list’ ที่ต้องทำ ซึ่งผมไม่เห็นว่าชีวิตเป็นรายการตรวจสอบ ที่ขีดฆ่าออกได้ราวกับจับจ่ายซื้อของ โอ้อวดว่าไปที่นั่นทำที่โน่นแล้ว หนำซ้ำการเพิ่มเติมรายการเข้าไป ยิ่งทำให้คุณมีเวลาทำมันน้อยลงเพราะชีวิตนั้นสั้นนัก คุณไม่จำเป็นต้องมีรายการช้อปปิ้งสำหรับการเดินทางไปเลยดีกว่า! สุดท้าย ทุกคนได้บางอย่างจากสถานที่ที่เคยไป ผู้คนที่เคยเจอ ประสบการณ์ที่เคยสัมผัส ผมหลงใหลกับความงดงามของสถานที่เหล่านั้น และประทับใจในฝีมือของวิศวกรผู้สร้างเมืองนี้ เสมือนถูกเตือนใจว่า วิวัฒนาการสิ่งปลูกสร้างในศตวรรษที่ 21 ต่อให้พิเศษเหนืออื่นใด สิ่งที่ค้นพบในมาชูปิกชูนั้น เกินกว่าจะสรรหาคำอธิบาย
สละเวลาเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยว
เช้าเคลื่อนตัว แดดแผดสลายละอองหมอก และพื้นที่ก็เป็นที่ประจักษ์สายตามากขึ้น รถทัวร์เริ่มทยอยกันเข้ามา พร้อมจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ไกด์กล่าวขอบคุณก่อนปล่อยให้พวกเราสำรวจพื้นที่กันเองต่อไป เซลฟีสติ๊กโบกไปมาเพื่อหามุมถ่ายรูปกลุ่ม ผู้คนกดถ่ายรูปเสียงดังทั่วพื้นที่ แต่ละคนพยายามที่จะเก็บบันทึกภาพสวยไร้ที่ติประหนึ่งทั้งสถานที่นั้นไม่มีใครนอกจากตน ผมเดินเล่นไปทั่วๆและสังเกตเห็นกลุ่มคนเป็นแถวยาวมุ่งตรงไปยังอีกทางของจุดชมวิว แต่เมื่อผมเข้าถึงจุดขายตั๋วที่ประตูเล็ก ผมจึงตระหนักว่าเส้นเดินป่านี้สำหรับผู้ที่จองตั๋วล่วงหน้ามาแล้วสามเดือน เส้นทางเดินพิเศษไปยังเขามาชูปิกชู ผมเดินลงมาจากทางที่ขึ้นไปและหาจุดยืน ซ้ายมือที่ผมเห็นคือกำแพงเมือง ตรงหน้าเป็นทุ่งเขียวขจีกับอัลปาก้าสองสามตัว ส่วนทางด้านขวามือของผมเป็น ป้ายบอกทางไปยังอีกเส้นเดินป่าและประตูแห่งสุริยะ ลังเลว่าจะอย่างไรต่อดี ผมตัดสินใจเลือกประตูแห่งสุริยะ ป้ายเล็กที่ห่างไปไม่กี่เมตรข้างหน้าแจ้งข้อมูลว่าจะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าจะถึงประตูและย้อนกลับมา แต่ในเมื่อผมไม่ได้รีบร้อนที่จะต้องกลับ และรถไฟโดยสารไปโอแลนเทแทมโบยังไม่ออกจนกว่าจะอีกแปดชั่วโมงข้างหน้า ผมเริ่มออกเดิน
มีคนอื่นๆอีกมากที่ร่วมเดินบนเส้นทางนี้ และถึงแม้ว่าบางจุดจะค่อนข้างแคบ แต่พื้นผิวหน้าของทางก็ไม่ได้แย่นัก บ่อยครั้งที่ผมพบคนพยายามที่จะไปให้ถึงอีกจุดหนึ่ง หรือไม่ก็โต้แย้งกันว่าควรไปต่อดีหรือไม่ และผมต้องยอมรับว่าหลังจากสี่สิบห้านาทีผ่านไป ผมคิดจะหันหลังกลับเช่นกัน แต่เมื่อคิดว่าผมมาได้ถึงขนาดนี้แล้ว ผมไม่ควรล้มเลิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นสองหญิงชราผู้แน่นอนว่าอาวุโสกว่าผมสิบหรืออาจถึงยี่สิบปีกำลังสนทนาถึงมหัศจรรย์แห่งความงามเบื้องบนยอดเขา
ความทรงจำดีๆ ประกอบด้วยสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
ยี่สิบนาทีผ่านไปผมมาถึงสิ้นสุดเส้นทาง และหันกลับไปมอง ตะลึงกับความงามของวิวทิวทัศน์ของเมืองเบื้องล่าง อากาศเย็นสบาย ดีเลยเพราะว่าผมเริ่มเหงื่อออกเต็มตัว แสงอาทิตย์สาดแรงกล้าสลายกลุ่มหมอกอันตรธานหายไปจนหมด ผมนั่งลงอย่างยาวนานและรื่นรมย์กับทัศนีภาพ นี่คือหนึ่งในไฮไลท์การเดินทางของผมยิ่งนัก เซลฟีสติ๊กเริ่มปรากฎ แต่โดยส่วนใหญ่คนที่เดินมาถึงจุดนี้จะแค่นั่งพักเงียบๆ ปล่อยให้แสงแดดอาบไล้ผิว และดื่มด่ำกับความบรรเจิดงดงาม สิ่งที่ประจักษ์สายตาตรงหน้าคือหนึ่งในสมบัติล้ำค่าถึงแม้ไม่มีภาพถ่าย ผมยังสามารถมองเห็นโบราณสถานและเมืองอินคาเบื้องล่าง มันไม่ใช่แค่สถานที่ที่จะขีดฆ่าออกอย่างง่ายจากลิสต์อะไรนั่น เหลียวมองรอบตัวเป็นครั้งสุดท้าย ผมลุกขึ้นยืน และเริ่มเดินลง ง่ายกว่ามากหากเทียบกับตอนปีนขึ้น ผมสมทบกับกลุ่มคนที่พยายามมองหารถทัวร์ของตนที่ลานจอดขนาดใหญ่เพื่อจะเดินทางกลับอากัวคาเลนเต ผมใช้เวลานิดหน่อยในการค้นหาของที่ระลึก ได้ตราประทับมาชูปิกชูบนพาสสปอร์ต และทุกวันนี้เมื่อผมยื่นสมุดที่จุดตรวจคนเข้าเมือง ผมจะเห็นตรานั่นและระลึกถึงการเดินทางที่เริ่มต้นจากแรงกระตุ้นอย่างไร้สติเพียงแค่ลุกขึ้นและเท้าแตะเดิน เพื่อค้นหา และทำสิ่งที่ไม่คาดฝัน อย่างไร้ข้อจำกัด และจะมีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า (ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฉงน) ผมมีขุมทรัพย์ล้ำค่าของความทรงจำที่ผู้คนอีกมากไม่อาจรวบรวมหรือเข้าใจได้