เมื่อการ ‘อาบน้ำ’ ถูกตีความใหม่
พวกเรารอดจากการเกือบถูกจับกุมเพราะไปถ่ายทำในพื้นที่ต้องห้าม พ้นปากประตูนรก ดื่มด่ำกับธรรมชาติก่อนถูกกระชากเดินทางสู่อิสตัลบูล บางครั้งก็รู้สึกเหมือนจะไม่พบกับความอบอุ่นอีกเลย หนาวสั่นตลอดการเดินทางบนรถโดยสารหรือตอนบ่ายที่ฝนปรอย เพื่อจะเย็นยะเยือกอีกครั้งในที่อื่น ตุรกีคือหนึ่งในสถานที่เหล่านั้น (ผมจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเท้าที่เย็นจนแข็งในระหว่างเซาธ์อเมริกาทริปในอีกตอนเร็วๆนี้ แต่ขณะเดียวกัน…) แม้ประเทศยังคงความงดงามของธรรมชาติที่ไม่ถูกทำลาย แต่อากาศในช่วงเดือนกุมภาพันธ์มีอุณหภูมิเย็นมาก และการเดินออกไปจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) และทอดสายตามองออกไปเห็นทวีปเอเชียสุดสายตาภายใต้อุณหภูมิศูนย์องศานั้นไม่ใช่เรื่องสนุกนักในความคิดของผม แต่ก็จนได้ กล้องพร้อม ทุกอย่างครบ จ้องมองไปยังแหลมที่แบ่งแยกสองทวีปออกจากกันอย่างเห็นภาพชัดเจน แล้วมันก็หนาวเข้ากระดูก แต่หลังความหนาวเหน็บพวกเราเตรียมแผนไว้แล้วว่าจะเติมความอุ่นให้ร่างกายอย่างไรในอีกสองสามชั่วโมงข้างหน้า (ไม่อย่างแน่นอน นรกไม่ใช่เป้าหมายที่จะไป จะว่าไป หลังจากสิบนาทีที่ปลุกปล้ำอยู่กับมัน ผมเริ่มจะเชื่อแล้วว่านรกมีจริง) คลานกลับขึ้นรถตู้ที่ขับพาพวกเราตระเวนไปทั่วเมือง และเริ่มตะลุยทัวร์ จุดแรกที่หยุดคือการทำให้ข้างในอุ่นเสียก่อนด้วยกาแฟพื้นเมืองตุรกี บรรจงดริปอย่างตั้งใจ ใช้เวลานานไม่ต่างจากการนวดจนเข้าที่พร้อมเสิร์ฟ ทริกคือต้องรอนิดจนเมล็ดกาแฟตกสู่ก้นถ้วยเพราะไม่งั้นเมล็ดจะติดฟันจนต้องถุยเศษออกมาเป็นระยะ
ฉากดุเดือด
ระบบหมุนเวียนโลหิตกลับเข้าที่ พวกเราเคลื่อนย้ายไปยังจุดอื่นของเมือง มะหงุมมะหงาลงจากรถ เราเริ่มต้นที่ผนังอิฐหน้าตึกใหญ่แห่งหนึ่ง ประตูบานเดี่ยวตรงทางเข้าและพวกเราก็ประกาศการมาเยือนด้วยการกดกริ่ง ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากสามีภรรยาเจ้าของบ้านและนำพวกเราไปยังส่วนสำหรับนั่งรอ จัดเตรียมการถ่ายทำสักพัก แบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยคุณศักดิ์สิทธิ์ (แท่ง) และตัวผมเองสวมบทบาทหนูทดลองหรือพรีเซ็นเตอร์สำหรับการถ่ายทำตอนสัมผัสประสบการณ์การอาบน้ำแบบตุรกีอย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะมีจินตนาการอยู่ในหัวอย่างไรเกี่ยวกับการอาบน้ำแบบตุรกี คุณคาดผิดทั้งหมด เพราะมันโหดร้ายทารุณ เหนียวเหนอะ และเต็มไปด้วยเสียงเพรียกอย่างเจ็บปวด
กองถ่ายทำเข้ามาในโดมขนาดใหญ่ที่เป็นส่วนอาบน้ำเพื่อจะเก็บภาพก่อนไฟจริงและไอน้ำเดือดจะเริ่มถูกจัดแจง ในขณะเดียวกันพิธีกรและผู้ช่วย (ผมเอง) เข้าไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวพร้อม สวมแค่เสื้อคลุมลายตารางหมากรุก เราเข้าไปยังห้องอบไอน้ำ และปรับตัวกับอุณหภูมิสักพัก ครั้นเมื่อเริ่มเหงื่อออก ก็แปลว่าพร้อมแล้วสำหรับพิธีการอาบน้ำ หนุ่มร่างใหญ่สองคนปรากฎตัวขึ้น สั่งให้เรานั่งหลังตรงบนม้าหินอ่อน สิ่งที่นำมาพร้อมกับพวกเขาคือถังที่บรรจแปรงต่างๆ และพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าที่เหลือคืออะไร สารพัดสบู่เหลว ร่างเปียกชุ่ม และพวกเราก็ได้สัมผัสการขัดไคลที่ไม่จบสิ้นเสมือนในขุมนรก เหมือนถูดขัดด้วยแปรงขนเหล็กบนแขน ขา และหลัง ตอนอื่นตอนเดียวที่ผมตัวสีชมพูได้ขนาดนี้ก็เมื่อตากแดดนานเกิน จบที่แขน ตักน้ำราดชำระล้างคราบไคลที่ยังเหลืออยู่บนร่างก่อนจะย้ายไปแขนอีกข้าง หรือขา หรืออะไรก็ตาม ผมมั่นใจว่าการทารุณกรรมนี้จะต้องถูกบรรจุลงในฟิล์มและนำไปออกอากาศอย่างแน่นอน หลังจากนั้นไม่นานไอน้ำเริ่มมากเกินกว่าที่จะถ่ายทำต่อ กองถ่ายที่ยังสวมชุดปกติเหงื่อแตกพลั่กหนักกว่าผมได้ออกไปคอยในส่วนที่นั่งรอและดื่มด่ำกับชาตุรกีรสชาติดี การขัดฉบับนรกจบสิ้นในที่สุด และหลังจากเทน้ำรดหัวและตัวอีกรอบ เราก็สะอาดหมดจดและได้รับอนุญาตให้เช็ดตัวและสวมเสื้อผ้า
การผจญภัยเพิ่มเติม …
แม้ว่าในตอนแรกการขัดไคลทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว แต่หลังจากนั้นสักครู่การอาบน้ำที่แท้จริงให้ผลลัพธ์ดีมาก และผมรู้สึกได้ถึงพลังงานและความสดชื่น ที่สำคัญ อุณหภูมิร่าวกายอุ่นขึ้นมาก รู้สึกถึงความสบายตัวมากกว่าระหว่างวันก่อนหน้า และนี่คือสิ่งที่ผมแน่ใจว่ามันคือการอาบน้ำแบบตุรกีอย่างถูกต้องถ่องแท้ เนื่องจากผมไม่มีประสบการณ์อื่นจะลบล้างข้อเท็จจริงนี้ ผมแนะนำว่าถ้ามีโอกาสไปเที่ยวตุรกี คุณควรลองสัมผัสประสบการณ์การอาบน้ำแบบตรุกีดั้งเดิมที่หมิ่นเหม่เมื่อคุณจะถูกขัดถูแทบทุกจุดในร่างกายจนตัวซีด แต่เชื่อเหอะ มันคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความไม่สบายตัวนั้นยิ่งนัก ขอบคุณเจ้าของบ้านสองสามีภรรยา พวกเรากลับขึ้นรถ และกลับไปยังโรงแรมที่เราทั้งสองไม่จำเป็นต้องอาบน้ำอีก แต่ที่เหลือต้องจัดการกับตัวเอง ปลดสัมภาระ อาบน้ำ และเตรียมพร้อมกับมื้อค่ำและอีกหนึ่งความหฤหรรษ์ของตุรกี แต่ตอนนี้อาจยาวเกินถ้าผมจะเล่าเกี่ยวกับระบำสะดือและนักเต้น ดังนั้นผมจะเก็บไว้เล่าใหม่พร้อมเรื่องราวอื่นๆในตอนต่อไป