ทะเลสาบภูเขาไฟหิมะและน้ำตก

ช่างแตกต่างกันอย่างมากระหว่างสภาพภูมิประเทศและสภาพแวดล้อมทางชีลีเหนือและชิลีใต้ ที่ซึ่งภูมิภาคทางตอนเหนือห่างไกลนั้นมีเทือกเขาที่เป็นกระสะส่วนใหญ่มาจากการทำเหมืองทอดตลอดทาง ในขณะที่เทือกเขาทางตอนใต้กลับปกคลุมด้วยหิมะและความเขียวขจีของชนบท เจ้าของบ้านใจดีขับรถมารับผมที่สนามบินที่ Puerto Monttและพาผมไปที่บ้านของเขาที่ Puerto Varas เขาบอกผมว่า– Puerto Varas เป็นสวรรค์น้อยๆที่ยังไม่ถูกค้นพบโดยนักท่องเที่ยว และหลังจากใช้เวลาสามวันในตัวเมืองและบริเวณโดยรอบ ผมเห็นด้วยอย่างที่สุด มันคือสถานที่ซึ่งที่ผมจะพิจารณาอย่างจริงจังเพื่อไปอยู่ถึงแม้ภูเขาไฟจะยังระอุคุกรุ่น อุณหภูมิค่อนข้างเย็น มันยังเป็นช่วงคาบเกี่ยวของปลายฤดูหนาวและต้นฤดูใบไม้ผลิเมื่อผมมาเยือนในเดือนตุลาคม อาทิตย์ที่หกของการเดินทาง และผมกลับมาอยู่ในตารางตามแผนไม่มากก็น้อย

 

 

 

 

 

การเตรียมการสำหรับ Road Trip

เปอร์โต เวราซ ตั้งอยู่ถัดจากทะเลสาบขนาดใหญ่ และผมสามารถจินตนาการได้เป็นอย่างดีว่าในช่วงฤดูร้อนมันต้องเป็นสถานที่สุดตระการตาที่จะเดินเล่นเลียบไปตามทาง หรือแม้แต่เพียงแค่นั่งหยีอนใจและรื่นรมย์กับอากาศและแสงแดด เมืองที่หลับไหลและใจกลางของเมืองมีขนาดค่อนข้างเล็ก –ไม่กี่ช่วงตึกกับแหล่งร้านอาหาร ร้านค้าและบริการต่างๆ รวมถึงที่พักสำหรับผู้พักอาศัยและนักท่องเที่ยว ผมได้รับการตอนรับอย่างอบอุ่นสู่บ้านของผู้ผลิตรายการ/ผู้กำกับซึ่งเคยร่วมงานกันในเมืองไทยสองสามปีก่อนหน้า พวกเขาให้การดูแลผมผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นสุดประทับใจ ผมเดินเล่นไปรอบๆเมืองในช่วงบ่ายแก่ และแวะชมถนนเล็กๆสองสามเส้น ในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาพาผมไปยังบริการให้เช่ารถที่ผมจะได้เช่ารถสักสองวันเพื่อขับเล่นทั่วเขตพื้นที่และแวะเที่ยวตามจุดต่างๆที่น่าสนใจ หลังจากได้เช่ารถ จุดแรกที่เราไปคือสำนักงานบริการท่องเที่ยวเพื่อซื้อตั๋วรถและเรือโดยสารข้ามทะเลสาบในเส้นทางการเดินทางข้ามเขตแดนชิลี–อาร์เจนตินาในอีกสองวันข้างหน้า ทุกอย่างพร้อมแล้วและตอน 9 โมงเช้า ผมได้เริ่มต้นการเดินทางกับแผนเส้นทางที่จะพาผมไปรอบ ๆ Lago Llanquihue.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หิมะตกบนผาลาด …

ผมรักการเดินทางผจญภัยทางรถยนต์ และผมก็ไม่ได้ผิดหวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถเที่ยวในวันนี้ สภาพถนนราดยางอย่างดี แต่ด้วยนิสัยของผมชอบที่จะใช้ถนนเส้นเล็กที่ไม่ใช่เส้นเดินทางหลัก เส้นทางส่วนใหญ่ที่เลือกขับจึงเป็นถนนลูกรัง แต่ทางเลือกก็ออกมาดีจากการขับตามเส้นทางตามแผนที่บนมือถือ ผมขับไปถึงภูเขาไฟ Volcan Osorno ที่พื้นที่ยังถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน มีลิฟท์พาคนเล่นสกีขึ้นเขา และผู้คลั่งไคล้การเล่นสกีหลายคนก็กระตือรือร้นที่จะไต่ระดับสูงขึ้นไปบนเขาเพื่อสนุกกับการเล่นเป็นครั้งสุดท้ายในช่วงฤดูกาล อากาศหนาวและเปึยกชื้น หลังจากการเดินไถลไปบนปุยหิมะไดัสักพัก ผมตัดสินใจว่าการอยู่ภายในรถนั้นดีกว่า อุ่นกายสบายใจ ค่อยๆขับลงจากเขาและได้รางวัลด้วยภาพทิวทัศน์ที่งดงามของวิวทะเลสาบไกลตาจากเบื้องล่าง ต่อกับการเดินทางที่ผกผันด้วยการแวะเมืองเล็กๆทีละเมือง และผ่านฟาร์มและบ้านพักในฟาร์มอีกหลายที่ หลายหลังเหมือนบ้านในเยอรมัน คงพอจะเดาได้ว่าใครตั้งรกรากในแถบนั้น ที่หนึ่งที่ผมขับผ่าน ล้อมรอบไปด้วยรั้วลิ่มไม้พันหนามกับกล้องวงจรปิด เหลือบมองจากระยะไกลพอจะบอกได้ว่าเป็นพวกชาวบาวาเรีย

 

… และร้อนขึ้นด้านล่าง

จากไหล่เขาปกคลุมด้วยหิมะของโอซอร์โน(Osorno) มาตามเส้นทางเดินเขาตัดผ่านป่าละเมาะไปยังน้ำตก ก้าวผ่านจากฤดูหนึ่งไปอีกฤดู และจากความหนาวยะเยือกภายใต้หิมะสี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ ตอนนี้ผมกลับเหงื่อแตกพลั่กเมื่อเลาะไปตามเส้นทางเดินป่ามุ่งสู่น้ำตก มีแหล่งธรรมชาติที่สวยงามอยู่มากมายในภูมิภาคนี้ที่ผมเข้าเยี่ยมชม และผมแน่ใจว่ามีหลายที่อีกมากนอกเหนือจากที่ได้เห็นในประเทศนี้ ผมยังแน่ใจอีกเช่นกันว่าภูมิภาคแถบนี้ต้องเป็นสวรรค์บนดินของผู้หลงรักธรรมชาติและนักตั้งแคมป์ เต็มไปด้วยความหลากหลาย และกิจกรรมเรียกพลังงานให้ทำในช่วงฤดูร้อน

 

 

จากน้ำตกผมขับรถช้าๆ รอบทะเลสาบ แะเมื่อผมเคลื่อนใกล้ชายฝั่ง ผมผ่านพื้นที่ฟาร์ม ทุ่งเขียวขจีทอดตัวยาว และนาพร้อมสำหรับการหว่านเมล็ดพันธุ์ ขณะในบริเวณอีกหนึ่งที่ที่อุ่นขึ้นเล็กน้อย ผมสามารถมองเห็นฝูงวัวนมรื่นรมย์กับการผึ่งแดด ในเมืองแห่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวมากกว่าเหมืองอื่นๆ บนฝั่งทะเลสาบผมมองเห็นอาคารนึงที่ดูคล้ายร้านอาหารผสมโรงหนังตั้งตระหงานอยู่ ในขณะที่ถนนฝากตรงข้ามมีบ้านหลายหลังที่สวยงามแปลกตาไล่ระเรียงไปตามแนวเขา ผมเช็คกับเจ้าของบ้านพักของผมหลังจากนั้นว่าที่ดินแถบนั้นราคาประมาณไหน ราคาที่ได้เทียบเท่าราคาที่ดินบางเมืองในประเทศแคนาดา – เห็นได้ชัดว่าเกินเอื้อม ผมขับผ่านต่ออีกหลายเมือง และเมื่อถึงบ่ายสี่ก็วนครบรอบทะเลสาบ และถึงเวลากลับไปยังเปอร์โตเวราซ ผมเดินทางครอบคลุมเป็นระยะทางเกือบ 160 กิโลเมตรด้วยการขับรอบทะเลสาบโดยใช้เวลาเกือบ 8 ชั่วโมง มันเป็นหนึ่งวันที่คุ้มค่า วันที่จบลงด้วยมื้อค่ำที่ดื่มด่ำกับมิตรภาพที่งดงาม