ที่บ้านของซานตาคลอส ขั้วโลกเหนือ
มันหนาวและมืดตอนที่พวกเรามาถึง ทั้งที่เพิ่งจะบ่ายสามครึ่ง หมู่บ้านซานต้า (Santa’s village) แผ่กว้างอยู่ตรงหน้า แสงไฟระยิบระยับในความมืดช่วงยามบ่ายในขณะที่เกล็ดหิมะส่องประกายสะท้อนแวววาวราวกับเพชรล้านกระรัต อาทิตย์ขึ้นเมื่อเวลาเก้าโมงครึ่งและตกดินราว 3:30 ในช่วงบ่าย ระหว่างเดือนธันวาคมถึงมกราคม ดังนั้นระยะเวลาสั้นๆ ของช่วงวันที่มีแสงนั้นจึงมีค่ายิ่งนัก เราถูกพาไปยังซานต้าออฟฟิศ ที่ซึ่งทุกคนมีอารมณ์ร่าเริงยินดี เราได้รับข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับซานตาคลอส รวมถึงการทัศนาขั้นตอนเบื้องหลังการทำงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันสำคัญของปี วันที่ 24 ธันวาคม ที่ทำการไปรษณีย์ขนาดใหญ่คือส่วนสำคัญที่จำเป็นสำหรับหมู่บ้าน เพราะมันเป็นสถานที่รองรับจดหมายเป็นแสนที่มาถึงในทุกๆ ปี และได้รับการตอบด้วยซานต้าและทีมผู้ช่วย
พวกเราทัวร์ที่เวิร์คช็อปและได้ตระหนักว่าหมู่บ้านนี้สำคัญขนาดไหนต่อเศรษฐกิจของภูมิภาค ไม่เพียงแต่จดหมายหลายหมื่นฉบับที่ส่งทะลักเข้ามาไม่ขาดสายในแต่ละปี จำนวนนักท่องเที่ยวที่ปริมาณเยอะพอกันที่เดินทางมาหมู่บ้านซานต้าเพื่อได้เห็นและสัมผัสประสบการณ์และระลึกถึงมนต์วิเศษ ( และบางทีแม้แต่สัมผัสประสบการณ์ช่วงเวลาแห่งการตั้งตาคอยแบบที่เคยมีในวัยเด็ก) ทัวร์เราจบลง และณ ช่วงเวลานั้น ประตูบานยักษ์ได้เปิดออก พวกเราพบกับเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงและถูกพาเข้าไปยังออฟฟิศของซานต้า มีกองจดหมายและซอง ทั้งหมดนั้นจากปีก่อน ซึ่งตอนนี้กำลังถูกคัดแยกอย่างระมัดระวังเพื่อเตรียมนำเข้าเก็บ พวกเรายืนกันอยู่ด้านในอยู่ชั่วขณะ และผมสาบานได้ว่าถึงแม้ว่าอายุซึ่งไม่รู้กี่สิบศตวรรษ ซานต้าดูไม่เหมือนชายอายุห้าสิบเลย พวกเราถูกเชิญให้นั่งลง และตลอดครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นพวกเราก็ได้สนทนากับนักบุญนิคเกี่ยวกับงานที่คงความหวังและความฝันของเหล่าเด็กน้อยเป็นหมื่นๆในทั่วโลก เมื่อพวกเราถามถึงความเป็นไปได้ที่จะพบรูดอล์ฟ มีเสียงหัวเราะก้องและตอบว่าพวกเราได้เจอกับรูดอล์ฟแล้วเมื่อวันก่อนเมื่อตอนที่พวกเราไปเล่นเลื่อนหิมะกับเรนเดียร์
“รูดอล์ฟเค้าถ่อมตัวเกิน”
ความเห็นที่บอกเมื่อเห็นพวกเราทำสีหน้าแปลกใจ ที่จริงตอนที่เค้าเอ่ยถึงนั้น ผมมองเห็นตัวเป็นๆเมื่อวันก่อนและอดโมโหตัวเองไม่ได้ที่ไม่ได้ให้เพื่อนถ่ายเซลฟีคู่กับเจ้าเรนเดียร์ที่ดังที่สุดในพวกพ้อง
พวกเราจบการสัมภาษณ์กับซานต้าและอำลา มีความสุขที่ได้แชร์เสี้ยวความลึกลับของขั้วโลกเหนือกับผู้ขมของเราเมื่อกลับไทย แน่นอนผมไม่ลืมที่จะแบ่งปันที่อยู่ทางไปรษณีย์ของซานต้า
คุณสามารถส่งจดหมายไปให้ซานตาคลอสโดยใช้ที่อยู่นี้
Santa Claus
Santa Claus Main Post Office
FI-96930 Arctic Circle
FINLAND
แต่ให้แน่ใจว่าคุณเขียน “ฟินแลนด์” เป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดใต้ที่อยู่
เราเดินทางกลับที่พักในตอนค่ำเพราะไม่มีอะไรจะทำได้มากนักในความมืด ในวันถัดไปจะได้เห็นพวกเราเข้าร่วมงานสองสามอย่าง อย่างน้อยก็หนึ่งอย่างที่มีไม่กี่คนพิจารณาอยากมีส่วนร่วม และงานซึ่งทำให้ผมเป็นชาวตะวันตกคนแรกที่เปลือยหลังออกอากาศในรายการโทรทัศน์เมืองไทยโดยไม่ถูกเซ็นเซอร์ แม้แต่ผมก็ไม่รู้จนเห็นตัวเองเมื่อรายการออกอากาศจริง – พูดถึงการตายอีกหมื่นรอบด้วยความอับอาย…
เปลือยเปล่าในโทรทัศน์
พวกเราตื่นเร็วในวันรุ่งขึ้นราวแปดโมงเช้าและไปรับประทานอาหารเช้า – ไม่มีอะไรให้ทำมากนักในช่วงเวลานั้นของวันและท่ามกลางความมืด เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ พวกเราก็พร้อมที่จะไปต่อ และภายนอกดวงอาทิตย์กำลังส่องแสง เราก็เดินทางไปหมู่บ้านใกล้ๆ เพื่อจะเรียนการขับสโนว์โมบิล – รถสำหรับเคลื่อนบนหิมะ – และลองขับเล่นจริงๆ สักรอบสองรอบ การที่ได้เติบโตในแคนาดาขับเลื่อนหิมะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นเร้าใจสำหรับผม และผมจำประสบการณ์การขับขี่ที่น่าขุ่นข้องใจได้ในขณะที่คนที่เหลือรู้สึกสนุกสนานกับมัน แต่เพื่อทีมและผู้ชมชาวไทยของเรา การมีโอกาสได้ซิ่งบนเจ้าเครื่องยนต์เหล่านี้ช่างน่าสนุกยิ่งนัก และพวกเราก็ได้เรื่องที่ดีเพื่อออกอากาศ หลังจากความหนาวเหน็บจากการขี่ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการอบตัวในซาวน่าให้เหงื่อออกสิบนาทีหรือกว่านั้นด้วยไอน้ำที่พวยพุ่ง ก่อนที่จะออกไปกระทบอากาศหนาวข้างนอกและจุ่มตัวในทะเลสาบน้ำแข็งที่เจาะน้ำแข็งเป็นช่องไว้อย่างมานะทุ่มเท พวกเราสนุกสนานกับเลื่อนหิมะ คราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะลุ้นว่าพวกเราจะเพลิดเพลินยินดีกับความร้อนสุดระอุตัดกับความเย็นยะเยือก มีปัญหาติดอยู่นิดที่ผมไม่สังเกตเห็นก่อนหน้าจนมันสายเกินไป การไม่ได้นำกางเกงว่ายน้ำติดมาด้วย ผมตัดสินว่าใช้แค่ผ้าขนหนูพันรอบเอวและสนุกกับซาวน่าก็ได้แล้ว โดยขอผ่านไม่แช่น้ำเย็นต่อ – แต่โปรดิวเซอร์ของผมกลับมีความคิดที่ต่างไป
จอนและผมนั่งในซาวน่าและถูกอบอย่างช้าๆ โดยตลอดเวลาได้รับการบอกว่ามันดีต่อสุขภาพยิ่งนัก เวลาสิบนาทีหมดลง และถึงเวลาที่จะต้องไปต่อที่บ่อน้ำแข็ง ผมคะยั้นคะยอให้จอนไปก่อน แต่ผมถูกหว่านล้อมที่จะออกจากซาวน่าและเข้าร่วมทรีตเมนต์ช่วงที่สอง ผมเหวี่ยงแจ็คเก็ตขึ้นบ่า ใส่บูท พันผ้าไว้ที่เอวและเดินไปทางบ่อน้ำแข็ง โชคดีที่กล้องถ่ายตามหลังผมอยู่นั้นมัวแต่โฟกัสอยู่ที่จอน เพราะเค้ามีบทพูดหน้ากล้องเกี่ยวกับว่าทำไมและเพื่ออะไรที่ต้องซาวน่าและแช่บ่อน้ำแข็ง ผมเดินไปจนถึงช่องน้ำแข็งที่ถูกเจาะไว้ ถอดรองเท้า โยนแจ็คเก็ต และค่อยๆแตะเท้าบนขั้นบันไดที่ขอบน้ำแข็ง ผมมองไปข้างหลังและเห็นว่ากล้องยังแพนไปที่ทิศอื่น – แต่สิ่งที่ผมไม่เห็นคือผู้ช่วยผู้กำกับให้สัญญาณตกลงกับทีมงาน ผมคิดไปเองว่าปลอดภัย และดึงผ้าขนหนูออกโยนไว้ข้างๆ ก่อนจะรวบรวมความกล้าจุ่มตัวลงไป
กระโดด …
น้ำ โคตร เย็นยะเยือก ความช็อคสุดขีดจากอุณหภูมิที่แตกต่างกันสุดขั้วน่าจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้หัวใจผมเต้น โชคดีที่ผมไม่ได้ดำลงไปและรักษาหัวและผมให้แห้ง แกว่งแขนให้ลอยตัวอยู่ในน้ำช่วงหนึ่ง ทีมกล้องมาถึง และที่ขอบสระจอนยืนรอให้ผมขึ้นมาเพื่อเขาจะได้ลงสระบ้าง ผมเอื้อมไปคว้าบันได แล้วถึงตระหนักด้วยความช็อคว่าตัวผมเปล่าเปลือยล่อนจ้อน แล้วกล้องก็เลื่อนมาทางผม โดยที่มีสายตาจับจ้องอยู่จากโปรดิวเซอร์และผู้ช่วยหญิง ผมก้าวขึ้นบันได และจอนต้องตระหนักเห็นเป็นแน่แท้ว่าผมรู้สึกกระอักกระอ่วนแค่ไหน ณ ช่วงเวลานั้น เค้าคว้าหยิบผ้าขนหนูจากที่ไหนสักแห่งใกล้ตัวและขึงค้างไว้ตรงขอบสระ กั้นกล้องและสายตาประชาชีทั้งหลาย ผมรีบขึ้นจากสระและหยิบผ้าเช็ดตัว เมื่อผมกลับขึ้นมายืนบนพื้น ผมหันไปมองและจัดผ้าให้เข้าที่ ก่อนจะหันกลับไปอีกครั้งด้วยสีหน้าเฉยเมยที่สุดเท่าที่จะบรรจงสร้างได้ เดินกลับไปสู่ความร้อนระอุของซาวน่า – ผมไม่สามารถบอกได้ว่าสีผิวของผมมาจากความอับอายหรือการอบซาวน่า ขณะที่กำลังเดินไปซาวน่า ผมได้ยินเสียงกรี้ดร้องดังจากด้านหลัง จอนกระโดดลงสระอย่างเร็ว และพบว่าน้ำเย็นยะเยือกอย่างไม่น่าเชื่อ และไม่นานนักหลังจากนั้นเขาก็ต้องขึ้นมา พูดสองสามประโยคกับกล้องก่อนเดินกลับไปซาวน่า
… และความจริงที่เปลือยเปล่า
มันเป็นเวลาสองสามปีหลังจากนั้นเมื่อผมทำการสัมภาษณ์ให้กับรายการอื่น ที่ฉากผ้าขนหนูที่พลิกผันได้ออกอากาศจริงๆ – มันถูกตัดออกจากตอนต้นฉบับ แต่ฟุตเทจได้ถูกบันทึกเก็บไว้ และในขณะที่เรากำลังพูดถึงอาชีพนักแสดงของผมในเมืองไทยและหลากหลายประเทศที่พวกเราได้เดินทางไปตอนทำรายการท่องเที่ยว ฉากสั้นๆได้ถูกนำมาฉาย ผมไม่รู้เลยว่ามันกำลังมา ผมนั่งดูละครไปสองสามตอน ผมหัวเราะเงียบๆก่อนจะตัวแข็งและหน้าแดงด้วยความอับอาย ถูกโจมตีเต็มๆ ฉากที่ผมอยู่บนขอบน้ำแข็ง ถอดบูท โยนแจ็คเก็ตไว้ข้างๆ เหลือบตามองข้างหลังผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะถอดผ้าขนหนูออก – เสี้ยววินาทีนั้น (หรือที่ผมคิดว่าแค่เสี้ยววินาที) กลายเป็นช่วงเวลาที่ผมไม่สามารถลบการกระทำออกไปได้ ที่นั่น ท่ามกลางความขาวของหิมะที่ปกคลุมไปทั่วชนบท วัตถุที่ขาวซีดกว่าพระจันทร์เองปรากฏขึ้นชั่วขณะก่อนตามสองขาขาวดั่งน้ำนมด่ำดิ่งสู่ความมืดของสระน้ำแข็งในวงล้อมของอาร์กติกแห่งฟินแลนด์