อุบัติเหตุ ตารางเวลารถโดยสาร และกรับ

frozen in a bus in colombia

แช่แข็งในรถบัส

อย่าเชื่อทุกสิ่งที่คุณอ่าน (ยกเว้นบล็อกนี้)

หนึ่งหรือสองตอนที่แล้วผมพูดถึงการเดินทางด้วยรถทัวร์ในอเมริกาใต้ ผมขึ้นรถจากซานจิลไปคูคูตาราวบ่ายสอง และคาดหวังว่าจะถึงบ้านที่ผมเข้าพักในคูคูตาประมาณสองทุ่ม ฝันไปเหอะ เมื่อคุณดูตารางรถทัวร์ที่พิมพ์แจกในอเมริกาใต้ คุณต้องบวกเข้าไปอีกหนึ่งชั่วโมงในทุกๆสี่ชั่วโมงของการเดินทางตามตารางรถ ทริปของผมที่ควรจะเป็นหกชั่วโมง กลับกลายเป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน และผมก็ไม่อาจโยนความผิดให้คนขับได้

 

widning road in colombia

ถนนยาวและคดเคี้ยวผ่านภูเขาในโคลัมเบีย

ทุกอย่างวุ่นวาย

การเดินทางเริ่มต้นอย่างราบรื่น อากาศดี วิวในชนบทร่มรื่นสบายตา ตกค่ำอุณหภูมิลดลง และในไม่ช้าฝนก็เริ่มตก เฮ้อ นักเดินทางที่น่าสงสาร ผมไม่เคยจำบทเรียนที่จะแพ็คเสื้อแจ็คเก็ตผ้าอุ่นๆและผ้าห่มติดตัวเวลาขึ้นรถทัวร์รอบดึก เมื่อถึงหกโมงเย็นก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผมจะไม่มีทางถึงที่หมายในเวลาสองทุ่มอย่างแน่นอน เดาคร่าวๆก็น่าจะราวสี่ทุ่ม เพราะฝนที่ตกลงมายิ่งทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้าลง ในขณะที่เรากำลังขับผ่านหุบเขา สัญญาณมือถือเริ่มขาดหาย ทันทีที่มีสัญญาณ ผมจึงรีบส่งข้อความให้ปลายทางรับทราบว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ไหนและจะถึงประมาณกี่โมง เฮ้อ ผมช่างไม่ต่างจากเด็กหลงทางในป่าทึบ การเดินทางหนึ่งวันจากโบโกตาไปซานจิลผ่านไปด้วยดี ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด แต่กระนั้น เมื่อถึงสามทุ่มผมก็รู้แล้วว่าการจะถึงคูคูตาก่อนเที่ยงคืนนั้นแทบไม่มีหวัง ฝนตกหนักขึ้น การจราจรทั้งสองฝั่งยิ่งตายสนิท ผมไม่สามารถมองเห็นอะไรข้างหน้าได้ไกลนัก อย่างเดียวที่ผมสามารถมองเห็นคือถนนเป็นโค้งหักศอกไปทางด้านขวามือและการจราจรฝั่งตรงข้ามก็นิ่งสนิท

ถึงแม้ความอบอุ่นจากอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารราวสาสิบคนจะช่วยได้บ้าง แต่มันก็ไม่มากพอที่จะช่วยอะไรได้มากนักเมื่อคนขับดับเครื่องยนต์รอ และลมหนาวจากภูเขาเริ่มแทรกตัวเข้ามาอย่างช้าๆ ผมดันเลือกใส่เสื้อยืดในการเดินทางครั้งนี้ และมีแค่แจ็คเก็ตติดตัวขึ้นรถมา ส่วนเสื้อผ้าอื่นๆของผม รวมถึงเสื้อที่หนาและอุ่นกว่านี้อยู่ในกระเป๋าเดินทางที่เก็บไว้ในช่องบรรจุสัมภาระใต้ท้องรถ และถูกทับด้วยกระเป๋าของผู้โดยสารคนอื่นๆ และแล้วอุณหภูมิในรถก็ลดต่ำลงเรื่อยๆ

landmark in bogota colombia

สถานที่สำคัญของโบโกตา – Iglesia Nuestra Senora del Carmen

หนาวในโคลัมเบีย

จากระยะไกล ผมสามารถมองเห็นไฟฉุกเฉินสีแดงและน้ำเงินส่องสัญญาณขอทางมายังเรา และจากด้านหลังมีไฟฉุกเฉินสีเหลืองและแดงส่องมาเช่นกัน รถฉุกเฉินและรถลากมาถึงจุดเกิดเหตุ ด้วยการเช็คแผนที่ผมจึรู้ว่าพวกเรารอมาเกือบชั่วโมง เพราะรถฉุกเฉินพวกนี้น่าจะมาจากเมืองที่ใกล้ที่สุดที่อาจมีเครื่องมือพร้อม ยวดยานฉุกเฉินต่างๆเคลื่อนตัวไปตามไหล่ทางจนถึงจุดที่เห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น อุณหภูมิยิ่งลดต่ำลง ผมจำครั้งสุดท้ายไม่ได้ด้วยซ้ำที่ฟันของผมกระทบกันเพราะความหนาวเยือก คล้ายกับเสียงเครื่องดนตรีทำจากไม้ที่เรียกว่ากรับ

ทันใดนั้นคนขับสตาร์ทรถและพวกเราก็เริ่มเคลื่อนตัวไปข้างหน้า อย่างช้าๆพวกเราค่อยๆเคลื่อนผ่านโค้งหักศอก เห็นได้ชัดว่าทางขวาของเราเป็นไหล่ทางที่พื้นที่จำกัด และจุดที่ลื่นไถลราวสามสิบฟุต ทางซ้ายมีรถมินิบัสจอดนิ่งอยู่ด้านข้างเป็นรอยถากที่ตัวถัง ทางด้านขวามียานพาหนะชนิดเดียวกันแฉลบคว่ำอยู่ ผู้โดยสารยืนรวมตัวกันเป็นกลุ่มอยู่ข้างถนนเพื่อรอรถคันใหม่มาถ่าย โชคดีเท่าที่ผมเห็นนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

sim card or chip for mobile lifeline when traveling

ซิมการ์ดหรือชิปโทรศัพท์เส้นชีวิตเมื่อเดินทาง

การพึ่งพาระบบเทคโนโลยี

เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง อุณหภูมิเริ่มไต่กลับขึ้นไปในระดับที่ไม่เลวร้ายเกินไป ฟันเริ่มหยุดกระทบกัน ในขณะที่ร่างกายส่วนที่เหลือเริ่มรับรู้แล้วว่ามันไม่ใช่เวลาจำศีล ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่ม และผมยังไม่สามารถติดต่อสื่อสารไม่ว่าในทางใดๆถึงเจ้าของบ้านที่ผมจะไปพักได้ มันไม่มีสัญญาณใดๆทั้งสิ้น ผมจ้องดูสัญญาณบนมือถือของผมอย่างกระวนกระวาย และทันใดนั้นผมสังเกตว่าระดับแบตตารีเริ่มอ่อนลง ผมได้เห็นก่อนหน้านี้ว่าคนอื่นควานใต้เก้าอี้้ที่นั่ง แล้วเหมือนกับว่าพวกเขาเสียบปลั๊กชาร์จได้ ผมมองหาอย่างเลิกลั่กและในที่สุดก็เจอปลั๊กยูเอสบีอยู่ใต้ที่นั่งระหว่างเก้าอี้สองตัวแถวที่ผมนั่ง ผมเริ่มสบายใจขึ้นที่เห็นระดับประจุแบ็ตมือถือของผมขยับสูงขึ้น และทันใดนั้นสัญญาณมือถือก็เพิ่มขึ้นสองขีด ผมรีบพิมพ์ข้อความส่งไป “ผมคาดว่าจะถึงคุณราวๆเที่ยงคืน ถ้าไม่สะดวกที่จะรอ ผมสามารถหาโรงแรมพักแถวนั้นได้นะครับ” เครื่องหมายเช็คเล็กๆบ่งบอกว่าข้อความถูกส่งออกไปแล้ว และอีกครู่เครื่องหมายเช็คอันที่สองก็ขึ้นมาให้รู้ว่าข้อความได้ส่งถึงมือถือของผู้รับ แล้วสัญญาณก็หายไป กว่าครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นผมคอยเช็คระดับสัญญาณและแอพแชทของผมว่ามีข้อความอะไรบ้างมั้ย แต่ไม่มีข้อความใดๆ จนถึงราวห้าทุ่มได้เมื่อพวกเราผ่านภูเขาเหล่านั้นในที่สุด แลการสื่อสารทั้งปวงก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ไฟกระพริบบนมือถือบอกให้ผมทราบว่าผมได้รับข้อความ

ไม่ต้องกังวลนะ พวกเราจะรอ บอกแล้วกันเมื่อคุณถึงสถานีรถทัวร์ แล้วเราจะไปรับคุณ”

มันเป็นเวลาเที่ยงคืนเมื่อผมไปถึง ช้ากว่ากำหนดสี่ชั่วโมง สองชั่วโมงของเวลานั้นเนื่องมาจากอุบัติเหตุและฝนตก ส่วนอีกสองชั่วโมงนั่นก็เพราะเป็นสิ่งที่คุณต้องบวกเข้าไปในตารางรถอย่างที่ผมบอกนั่นแหละ

Posted in อเมริกาใต้, เรื่องราว.

เคนอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปีและได้เดินทางอย่างกว้างขวาง เขาสนุกกับการอ่านการเขียนการถ่ายภาพ, อาหาร, และการแบ่งปันเรื่องราว