เดินไกลและกลัวความสูง
ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินทางอย่างเร่งรีบ เพราะสุดท้ายแล้วมันไม่คุ้มค่า และอาจต้องเสียเงินเสียเงินและเวลาเพิ่มขึ้นกับสิ่งเดิมๆที่เราเร่งทำมาก่อนหน้า แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมไม่มีปัญหาอะไร ที่จะเดินทางไปเที่ยวทวีปอเมริกาใต้อีกครั้ง ช่วงเวลาที่เที่ยวระหว่างเส้นทางจากโคลอมเบียไปเปรูค่อนข้างน้อย ผมเลยต้องรีบเดินทางต่อไปยังควิโตเมืองหลวงของเอกวาดอร์ เพราะผมใช้เวลาหลายวันมากเกินไปในสองประเทศแรกที่เดินทาง และผมต้องการที่จะคงตารางการเดินทางเดิมที่จะถึงคูสโกประมาณวันที่ 17 ของเดือน ตามจริงแล้วควิโตและเอกวาดอร์โดยรวม ควรใช้เวลามากกว่าที่ผมกะไว้และผมก็ยังไม่ได้พูดถึงหมู่เกาะกาลาปาโกสเลยด้วยซ้ำ ด้วยกันกับเจ้าของบ้าน ผมจัดตารางการเดินทางได้อย่างลงตัว และสวยงามสำหรับการเปิดหูเปิดตาในเมืองหลวงเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ที่แรกที่ผมแวะคือศูนย์ศิลปะร่วมสมัย ที่อยู่ในระยะแค่ไม่กี่กิโลจากบ้านของเขา เดินเช็็คเส้นทางไปอย่างใกล้ชิดตามรอยแผนที่บนมือถือ ถึงผมจะเดินมามากในสองประเทศแรก แต่ก็ต้องยอมรับว่า ควิโตคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการเดินเท้าที่แสนยาวนาน ท่องเมืองในทวีปอเมริกาใต้
ศูนย์ศิลปะร่วมสมัยตั้งอยู่ย่านตึกเก่าที่นำมาบูรณะใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ตึกนี้ดั้งเดิมผ่านการใช้งานมาหลายบทบาท ตั้งแต่ที่พักอาศัย มาจนถึงสถานีอนามัยที่ใช้สำหรับกักกันโรค จนถึงโรงพยาบาลทหาร ถึงแม้ว่าจะไม่มีการจัดนิทรรศการภาพบ่อยครั้งนัก แต่ตัวตึกเองก็สวยงามและเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ จากศูนย์ศิลปะ ผมเดินต่อไปยังตึก “Basilica of the National Vow” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งศูยน์กลางแห่งประวัติศาสตร์ของเมืองควิโต ศาสนสถานนิกายโรมันคาทอลิกแห่งนี้เป็นศาสนสถานสำคัญแบบนิโอโกธิกที่ใหญ่ที่สุดของชนชาวอเมริกา (ซึ่งรวมถึงทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และอเมริกากลาง) ผมมักจะทึ่งกับความงามของสถาปัตยกรรมเหล่านี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ วิหาร ศาสนสถาน วัด สุเหร่า หรือจะตึกใดๆก็ตามที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อแสดงถึงแรงศรัทธาในความเชื่อทางศาสนา สถานที่เหล่านี้มักจะสอดแทรกความรู้และสอนเราบางอย่างผ่านทางสถาปัตยกรรม ศิลปะทางโลกและทางธรรม ความเชื่อ และประวัติศาสตร์ และพวกเขาฝ่าฝืนกฏข้อบังคับอย่างตรงไปตรงมาของคำสั่งสอนลำดับที่สอง ว่าด้วยเรื่องการห้ามสร้างภาพแทนพระเจ้าเสมอ แต่สำหรับงานศิลปะ สถานที่เหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยภาพวาด และวัตถุทางศิลปะที่มีค่า
สูง 90 เมตรมองลงมาที่ถนน … ..
ผมเดินเที่ยวในศาสนสถาน ชื่นชมงานปั้นและผลงานทางศิลปะจนหนำใจแล้ว ผมก็ตัดสินใจไต่บันไดขึ้นไปยังหอคอยของตึกซึ่งมีระเบียงให้ยืนชมวิวที่งดงามของเมือง สูงขึ้นไประดับห้าสิบเมตร มีทางเดินไม้ทอดเป็นทางยาวให้คุณเดินข้ามปีกของโบสถ์ไปยังหอคอยด้านตรงข้าม และยังมีทางเดินต่อระดับขึ้นไปยังความสูงที่เพิ่มขึ้น อีกยี่สิบเมตรหรือกว่านั้น ขั้นบันไดเหล่านั้นสิ้นสุดที่จุดยืนอีกที่ ซึ่งคุณสามารถมองลงไปจากหลังคาจริงๆได้ และยังมีขั้นบันไดทางเดินที่ต่อเชื่อมไปยังจุดชมวิวจุดที่สามซึ่งเป็นจุดสุดท้าย แต่เมื่อผมมองทางเดินที่ดูบอบบางน่าหวาดเสียวที่สามารถมองเห็นถนนเบื้องล่างนั้น หัวใจผมก็แป้วและหลุ่นตุ้บลงไปแทบเท้าพร้อมๆกับถอยตัวเองกลับมา มือจับที่ยึดอย่างแน่นก่อนจะค่อยๆลากขาอย่างง่อยเปลี้ย กลับมาจุดปลอดภัยที่ระเบียง ที่ซึ่งดึงตัวตนผมกลับมาจุดที่ห่างไกล และไม่ต้องทรมานจากการกลัวความสูง
หอคอยมีความสูงที่ระดับร้อยสิบห้าเมตร โดยจุดชมวิวจุดที่สามนั้น อยู่ที่ระดับความสูงเก้าสิบเมตรหรือประมาณนั้น ผมยิ่งกว่าดีใจและปรารถนาที่จะหยุดอยู่แค่ความสูงที่ระดับห้าสิบเมตร มองลงจากหอยคอยผมกวาดตามองไปรอบเมือง เริ่มวาดแผนที่ในใจว่าจะไปเที่ยวแถบไหนต่อดี ซึ่งก็น่าจะเป็นตลาดในเมือง แกรนด์พลาซา และอีกหลากหลายสถานที่ที่น่าเที่ยวชมตลอดเส้นทางนั้น มีอีกหลายสิ่งที่น่าชมและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเมืองนี้ น่าเสียดายที่ผมไม่มีเวลาพอ
สมบัติล้ำค่าที่ละเว้นโดยกลุ่ม ‘Selfie’
ผมเดินต่อไปยังโบสถ์อีกหลายแห่ง ตามเส้นทางก่อนจะมาถึง Biblioteca Gonzalez Suarez ที่ซึ่งฉุดให้ผมจมดิ่งสู่ภวังค์ นี่ผมเป็นเด็กแก่เรียนหรืออะไร แต่ถ้าคุณจะให้ของขวัญที่ดีที่สุดแก่ผม ก็แค่พาผมไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ร้านหนังสือขนาดใหญ่ หรือห้องสมุดแห่งชาติ และผมก็ยินดี ที่จะใช้เวลาหลายต่อหลายชั่วโมงจนถึงทั้งวัน อย่างมีความสุขอยู่ในสถานที่เหล่านั้น (และถ้าจะเป็นเดอะเม็ทในนิวยอร์ก เดอะลูฟวร์ในปารีส หรืออะไรประมาณนั้นในโลกนี้ แค่ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ผมเลย) สองชั่วโมงครึ่งที่ผมเดินอยู่ในห้องสมุด แวะชมอาร์ตแกลเลอรี นิทรรศการภาพและของสะสมต่างๆ
ก่อนหน้านี้ผมได้เยี่ยมชมห้องสมุดในโบสถ์ และดูบทจารึกที่ใส่กรอบโชว์ไว้ และยังได้มีโอกาสดูบทจารึกโบราณ บนชั้นที่ถูกจับด้วยฝุ่นหนาเขรอะด้วยความกระหาย มีสมบัติที่ทรงคุณค่ามากมายที่ได้พบเจอในสถานที่ต่างๆเหล่านี้ และแทบจะบ่อยมากที่ไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่แค่ให้ความสำคัญกับการถ่ายรูปสถานที่อย่างลวกๆพอเป็นพิธีว่าเคยมาแล้วก็จากไปอย่างไม่ใยดี ใส่ใจแค่ความพอใจว่า ครั้งหนึ่งตนได้มีโอกาสมาเหยียบสถานที่ ที่มีชื่อเสียงและรุ่งเรืองแห่งหนึ่งของโลก แต่เพิกเฉยอย่างไม่แยแส ต่อความเป็นจริงที่ว่าตนแค่สัมผัสมันอย่างผิวเผิน
และนี่คือเหตุผลที่ผมชอบเดินทางคนเดียวมากกว่ากรุ๊ปทัวร์ จะว่าไปผมไม่ใช่คนที่เรื่องมากอะไร ที่จะร่วมเดินทางด้วย แค่ให้ผมได้เข้าไปชมห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ หรือเดินชมธรรมชาติ และอย่ายัดเยียดตารางเที่ยวที่เต็มไปด้วยแหล่งชอปปิ้ง ถ้าผมอยากจะได้สินค้าฟุ่มเฟือยพวกนั้นไว้รอสั่งซื้อทางออนไลน์เอาก็ได้