พรมและนักเต้นระบำหน้าท้องในอิสตันบูล

การสร้างบทนำรายการทีวีที่น่าสนใจ …

เมื่อใดก็ตามที่คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่คุณต้องผลิตรายการทีวีที่ต้องให้ผู้ดำเนินรายการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของที่นำมากล่าวถึงในตอนนั้นๆ หรือช่วงใดช่วงหนึ่ง ความคิดสร้างสรรค์ก็เริ่มทำงานอยู่ในหัว เพื่อกลั่นมันออกมาเป็นรูปธรรม บางครั้งมันก็ได้ผล แต่หลายครั้ง… เอาเป็นว่าเราเคยผ่านช่วงพลาดๆ ซึ่งหมายความว่าก็แค่ยืนหน้าเซ็งท่องไปตามบทในสตูดิโออยู่หน้าฉากที่่น่าเบื่อสองสามสัปดาห์หลังกลับมาจากทริปการถ่ายทำ สำหรับตุรกี เราไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะเราสำรองไว้หลายบทที่จะให้พิธีกรทำอะไรสนุกๆกับสิ่งของที่เตรียมไว้ แน่นอนการอาบน้ำแบบตุรกีเป็นตอนที่ได้รับความสนใจมากจากผู้ชม เราจึงต้องทำตอนต่อไปให้ตื่นเต้นและเร้าใจยิ่งขึ้น

 

เราจะถ่ายทำเรื่องพรมตุรกี ขั้นตอนการทอ ย้อมไหม และการผูกปมสร้างลวดลายของพรม สำหรับใครที่ไม่เคยสังเกตพรมอย่างใกล้ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผืนที่มาจากเปอร์เซียหรือตุรกี เตรียมประทับใจได้เลยกับสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณ แล้วคุณจะทึ่งและตระหนักในคุณค่าของราคาที่คุณจ่ายไป (และผมไม่ได้หมายถึงพวกที่ผลิตจากโรงงาน) มีการผูกปมหลายแบบในการทำพรม และดีไซน์ก็หลากหลาย แต่ที่เหมือนกันอย่างคือความซับซ้อนของลวดลาย แม้ว่าเราใช้คำว่า “พรมตุรกี” ชื่อนั้นค่อนไปทางผิด เพราะพรมเหล่านั้นจริงๆ แล้วมีแหล่งที่มาจากแหล่งคาบสมุทรเอเชียตะวันตก (Asia Minor) หรือพรมแดนที่เคยเป็นอาณาจักรอ็อตโตแมน (the Ottoman Empire) และพื้นที่โดยรอบ ลวดลายของพรมได้อิทธิพลมาจากหลายภูมิภาคและหลายชนเผ่าพื้นเมือง เติร์ก อาเมนิก คอเคเชียน เคอดิก (Turkic, Armenic, Caucasian, Kurdic) และอื่นๆ ด้วยร่องรอยดีไซน์แบบไบแซนทีน (Byzantine) และอิทธิพลจากศิลปะอิสลามในเวลาต่อมา Read more...

อ่านต่อไป...

มุมมองที่แตกต่างกับ Uyuni

 

 

 

ความสวยงามที่น่าอัศจรรย์ในเทือกเขาโบลิเวีย

โรงแรมและริ้วธงห่างออกไปในฉากหลัง กลุ่มควันเล็กๆพัดมวลอยู่ในอากาศตามท้ายขบวนคาราวานสี่ล้อ จากระยะไกลเราสามารถมองเห็นยอดเขาที่ล้อมรอบด้วยนาเกลือ รถสองคันขับแยกทิศกันไป “สำหรับทุุกสิ่งที่ดีกว่า” คนขับกล่าว เพื่อหามุมดีๆที่พวกเราจะได้พักรับประทานมื้อเที่ยงกันอย่างสุขสบายและได้ปลดปล่อยใจไปกับอิสระความงามของพื้นที่เวิ้งว้างสีขาวอันกว้างใหญ่สุดสายตา ก่อนจะเดินทางต่อตลอดวันจนถึงพรุ่งนี้

 

โต๊ะสองสามตัวมาตั้ง พร้อมเก้าอี้นั่งพลาสติก ตามด้วยผ้าปูโต๊ะ ไม้หนีบจีบมุมไม่ให้ผ้าปลิว ในขณะที่เตาปิคนิคถูกนำมาตั้งเพื่อต้มน้ำและปรุงอาหาร ไม่นานนักมื้อกลางวันเราก็พร้อม เต็มไปด้วยสลัดและควินัว ผมได้ถือโอกาสเดินสำรวจเหมืองเกลือ เกลือกอบเป็นกองๆ ปูแนวเป็นถนนเส้นยาวๆ ตากแดดให้แห้งก่อนที่จะเก็บในวันถัดไป ตามที่ผมกล่าวไว้ก่อนหน้า เกลือที่ปกคลุมพื้นที่นี้สามารถเจอได้ทุกที่ในรัศมีที่ลึกลงไปไม่กี่เซ็นติเมตรหรือจะลึกระดับหลายเมตร และเหมืองเกลือยังเป็นรายได้หลักทางเศรษฐกิจ

 

 

เกาะในมหาสมุทรเกลือ

กินเสร็จ ทุกอย่างแพ็คเก็บ แล้วเราก็มุ่งสู่จุดหมายต่อไป เกาะกลางพื้นที่กว้างใหญ่ ซึ่งจริงๆ แล้วคือยอดเขาที่โผล่ทะลุพื้นผิวขึ้นมา และด้วยวิถีประหลาดระคนทึ่ง เหล่าพันธุ์ไม้ไชรากและเบ่งบานอย่างองอาจมุ่งมั่นไม่สยบต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร ถูกปล่อยให้สำรวจสถานที่ตามอัธยาศัย พวกเราส่วนใหญ่เริ่มปีนไต่ไปตามทางหินขรุขระจนถึงจุดชมวิวบนยอดเขาเล็กๆ

 

 

 

 

จากจุดที่ยืนทอดสายตามองข้ามพื้นที่สีขาวกว้างใหญ่งดงามเกินร้อยเป็นถ้อยคำ ไม่ยากเกินเข้าใจได้ว่าทำไมที่นี่ถึงสะกดเหล่านักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลมาเยี่ยมชมหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ธรรมชาติสรรสร้าง ในเดือนกันยายน สภาพภูมิอากาศแห้ง ยังไม่มีฝนตกจนกว่าจะย่างเข้าเดือนมกราคม และถึงแม้จะถึงตอนนั้นฝนก็ตกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อฝนตกลงมา กองเกลือมหึมาจะถูกทับคลุมด้วยละอองน้ำเป็นชั้นบางๆ และพื้นผิวขนาดยักษ์เปลี่ยนสภาพเป็นกระจกผืนใหญ่ให้ได้ถ่ายเก็บบันทึกภาพประทับใจ (Read more...

อ่านต่อไป...

Salar de Uyuni, Bolivia

Uyuni – เกลือแห่งโลก

หลับตลอดทางสลับกับเด้งจากแรงกระแทกของถนนที่ขรุขระไปทั้งคืน อุณหภูมิลดดิ่ง แต่ผมได้เรียนรู้ที่จะใส่เสื้อผ้าทับหลายชั้นจนอุ่นสบาย เจ็ดนาฬิกาพวกเราเตร็ดเตร่อยู่หน้าสำนักงานทัวร์ที่จะพาเราข้ามซาลา เดอ อูยูนิ (Salar de Uyuni) นาเกลือขนาดใหญ่บนพื้นที่กว้างสุดตา แสงอาทิตย์สาดส่องและกระจายไออุ่นสู่ร่างกายเราอย่างช้าๆ อีกราวหนึ่งขั่วโมงหรือกว่านั้นก่อนที่สำนักงานจะเปิดทำการ กลุ่มคนทั้งหลายฆ่าเวลาด้วยการเดินเล่นสำรวจอูยูนิไปตามจุดต่างๆ ไม่มีอะไรมากนักในตัวเมือง แต่ก็พอมีจุดเที่ยวที่ให้ความรู้สึกสุดขอบโลก

 

 

จตุรัสเมืองเล็กๆที่จัดวางม้านั่งยาวแบบในสวนสาธารณะ ในขณะที่ร้านอาหารต่างๆให้บริการกาแฟและอาหารเช้า มีการจราจรอยู่บ้าง โดยรถราส่วนใหญ่เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ

ที่นี่เช่นกัน เศษชิ้นส่วนโลหะนำมาประดิษฐ์ใหม่เป็นรูปปั้นน่าสะพรึงสร้างความตระหนกแก่ยวดยานที่ขับผ่านเพื่อจะได้อยู่ภายใต้กฏระเบียบการขับขี่อย่างปลอดภัย ผมเจอร้านอาหารเล็กๆสำหรับกาแฟสักแก้วและเพื่อจะพักชาร์จแบตมือถือ ผมได้เปลี่ยนแบตใหม่ในเอกวาดอร์ แต่มันแย่เสียยิ่งกว่าแบตเดิมที่เคยใช้ และผมก็ต้องคอยชาร์จมันใหม่อยู่เรื่อยๆหลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง

เวลาผ่านไปพอสมควรและในที่สุดก็ถึงเวลากลับมารวมตัวกันที่จุดนัด และนักเดินทางกลุ่มเล็กๆผู้กระตือรือร้นก็ได้เดินสำรวจไปหลายพื้นที่บริเวณรอบๆใกล้สำนักงาน พวกเราเดินทางแบบขบวนคาราวานกลุ่มเล็กๆในชั่วโมงแรกหรือประมาณนั้นไปยังนาเกลือ แต่แบ่งออกเป็นสองกลุ่มที่เล็กลงแยกออกเป็นสองคันรถ พวกเรามีทั้งหมด 11 คนรวมคนขับและผู้ช่วย ซึ่งหมายความว่าต้องอัดกันอยู่บนสองเบาะพับเล็กๆด้านหลังและอีกหนึ่งที่นั่งจริงๆ ในขณะที่คนขับและผู้ช่วยนั่งกันอย่างสบายในตอนหน้า ผมรู้สึกสงสารอีกกลุ่ม ที่ต้องอัดกันถึงหกคน เราแต่ละคนนำน้ำดื่มติดตัวกันมาขั้นต่ำ 6 ลิตร ‘น่าจะพอเพียง’ หรือนั่นก็คือสิ่งที่พวกเราคิดสำหรับอีกสองสามวันข้างหน้า แต่มันกลับไม่ใช่ สัมภาระของพวกเราทั้งหมดถูกย้ายไปเก็บไว้บนตะแกรงหลังคาคลุมทับและรัดแน่น ผมสงสัยว่าทำไม แต่ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่าฝุ่นรุนแรงเพราะรถราจำนวนมากที่ขับข้ามเทือกเขาอัลติพลาโน และการที่จะรักษากระเป๋าเหล่านั้นให้ปราศจากฝุ่นไม่ต่างจากฝันร้าย

บ้านสร้างขึ้นจากเกลือ

เราเริ่มทริปกับจุดหมายแรกกระจุกบ้านหรือกระท่อมที่ทำเป็นที่อยู่อาศัยหรือร้านค้าสำหรับชุมชนริมนาเกลือ Read more...

อ่านต่อไป...

สูงขึ้นไปใน Altiplano เมือง ลาปาซ ของโบลิเวีย

ลาปาซ โบลิเวีย

ลาปาซเป็นเมืองที่วิเศษมาก ผมอยากจะใช้คำว่ารังวิหกเพื่อบรรยายที่ตั้งเมืองนี้ แต่มันก็คงไม่ถูกนัก เมืองที่แผ่บริเวณตั้งอยู่ในหุบเขาลึกที่ก่อกำเนิดจากแม่น้ำโชกียาปู (Choqueyapu River) ส่วนกลางของตัวเมืองประกอบด้วยถนนคู่ขนานสายหลักสวนสาธารณะ และจตุรัสเมือง โดยเมืองแผ่ขยายไปตามหุบเขาต่างๆ สนามบินตั้งอยู่บนยอดเขาแคบๆ และเมื่อผมมองเห็นมันจากรถโดยสาร ผมดีใจอย่างยิ่งที่เลือกเดินทางด้วยรถที่ถึงจะใช้เวลายาวนานทั้งวันแทนที่จะบินมา เพราะสำหรับผมแล้ว สิ่งที่เห็นมันดูเหมือนจะไม่มีทางเอาเครื่องลงจอดได้ ผมได้อ่านสองสามวันก่อนออกเดินทาง เหมือนอีกหลายที่ในทวีปอเมริกาใต้ที่ใช้รถกระเช้าเป็นระบบขนส่งมวลชนบรรทุกผู้คนไปยังบางจุดของเมืองและพื้นที่ใกล้เคียงของเอล อัลโต ระบบขนส่งมวลชนนี้ในปี 2017 มีระยะทางยาวถึง 17 กิโลเมตร และวางแผนจะขยายจุดเชื่อมต่อยาวไปถึง 40 กิโลเมตรของระบบขนส่งโดยรถกระเช้าหรือ เทเลเฟอริโก (teleferico) ผมไม่มีเวลาได้ทดลองใช้บริการ คุณอาจพูดได้ว่าผมโชคดีในความโชคร้ายเพราะผมกับรถกระเช้านั้นไม่ถูกจริตกันนักแต่ผมก็พอเข้าใจได้ว่าระบบขนส่งช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้อย่างมากโดยการให้บริการตรงจากชุมชนบนเทือกเขาสู่จุดต่างๆในหุบเขาแทนที่จะต้องให้ชาวบ้านเดินทางด้วยความยากลำบากผ่านเส้นทางทุรกันดาร

 

เมื่อรถที่ผมโดยสารขับเคลื่อนอย่างยากลำยากผ่านถนนที่แออัดนอกเมือง สารพัดผลงานสรรค์สร้างจากโลหะตั้งตระหง่านตามเส้นทางไปสู่เมือง รวมถึงหนึ่งในผลงานสุดอัปลักษณ์เกินบรรยาย อนุสาวรีย์แห่ง ชิ เจวารา ทำจากชิ้นส่วนโลหะรวมทั้งอะไหล่รถ เฟือง ล้อ และส่วนอื่นๆ สูง 30 เมตร และสามารถมองเห็นได้จากระยะไกล ผมสังเกตสารพัดงานศิลปะเมื่อผมเดินทางในประเทศ แต่ไว้ผมค่อยเล่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ลาปาซได้ถูกจดจำว่าเป็นเมืองที่มีระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลRead more...

อ่านต่อไป...

เอเฟซัส, ตุรกี, เมืองโบราณของชาวกรีกและชาวโรมัน

น้ำร้อนและประตูนรก

ตุรกีมีหลากหลายสิ่งบันเทิงใจ และกว่าห้าวันที่พวกเราอยู่ที่นั่น เราถ่ายทำครอบคลุมได้หลายจุด จากอังการาต่อไปยังปามุกกาเล บ่อน้ำพุเลื่องชื่อ และคันนาเกลือสีขาวสวยงามที่เรียกว่าทาเวอร์ทีน เกลือแร่คาร์บอนเนตจากการตกผลึกของธาตุไออนจากน้ำพุร้อน กำแพงสีขาวที่สามารถมองเห็นจากอีกฝั่งของ หุบเขามีความสูงสูง 160 เมตร และทอดตัวยาวเกือบ 2.7 กิโลเมตร

 

 

 

 

สระน้ำที่ก่อตัวเติมเต็มโดยสายน้ำที่ไหลรวมตัวลงมาจากน้ำพุร้อนบนหุบเขา เป็นพันๆปีที่บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยว การหลั่งทะลักมาเที่ยวอย่างบ้าคลั่ง โรงแรมจำนวนมากตั้งครอบทับสิ่งสวยงามธรรมชาติสร้างแห่งนี้ การเปลี่ยนเส้นทางการไหลของน้ำพุร้อนตัดเข้าสู่โรงแรม รวมถึงนักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันหลายหมื่นคนที่เดินเหยียบย่ำพื้นที่่นำไปสู่ความเสียหายในที่สุด จนปลายทศวรรษ.. 1980 เมื่อสถานที่นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โรงแรมต่างๆถูกรื้อถอน เส้นทางข้ามบ่อน้ำพุร้อนของนักท่องเที่ยวถูกปิดใช้ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมความงามที่่น่าหลงใหลนี้ได้ด้วยสายตา มีแค่เพียงบ่อน้ำพุร้อนสองสามบ่อเล็กๆที่ตีนเขาซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจุ่มเท้าแช่น้ำอุ่นๆ

 

 

 

 

 

 

ความตายโดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

สิ่งที่ถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้งจากนักท่องเที่ยวคือบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของ เมืองกรีกโรมัน Hierapolis เมืองโบราณที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดีแห่งนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวชมเพราะมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน Read more...

อ่านต่อไป...