ลิมาเหนือและใต้พื้นดิน

กะโหลก   จารึกโบราณ   มรดก

ดื่มด่ำอย่างเต็มที่จากปิสโก ผมเดินกลับมาที่จตุรัสกลางเมืองเก่า ที่มีชื่อ Plaza Mayor แล้วก็หาทางไปสุสานต่อ สุสาน ใช่ ผมรู้ดี ใครที่สติดีจะลัดเลาะเข้าไปในสุสานเพื่อจะดูอะไร ผมเกลียดภาพยนตร์สยองขวัญสั่นประสาท จะดีเสียกว่าไหมถ้าผมไม่ต้องช็อคตายทุกห้านาที แต่มันก็ยังมีความพิศวงอย่างประหลาดที่ทำให้ผมอยากจะค้นหาสุสานของอารามซานฟรานซิสโก

ที่แรกที่ผมเดินเข้าไปคือวังของสังฆนายกของลิมา และถึงแม้ผมจะต่อต้านการสนับสนุนวิถีการใช้ชีวิตที่หรูหราฟูฟ่าของชนชั้นสูงที่ความร่ำรวยได้มาจากการทำนาบนหลังผู้ด้อยโอกาส แต่การจ่ายค่าเข้าชมพิพิพิธภัณฑ์นั้นก็เพื่อนำมาบูรณะพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้เข้าชมและเรียนรู้ศิลปะคริสต์ที่แทรกตัวอยู่ในชิ้นงาน บ้านพักยังคงเปิดให้บริการอยู่และดูใหม่ถึงแม้จะสร้างมาตั้งแต่ปีคศ. 1924 ตัวอย่างศิลปะและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของยุคนีโอโคโลเนียลที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบ การตกแต่งภายในของวังมีความสวยหรูตระการตา เพดานส่องสะท้อนเป็นประกายจากกระจกหน้าต่าง ขั้นบันไดหินอ่อน รูปปั้นแกรนิตของเซนต์ตูริเบียสแห่งม็องโกวิโย เทพผู้พิทักษ์แห่งอัครสังฆมณฑล

วิหารลิมา

ผมเดินชมไปตามห้องต่างๆในชั้นล่าง ดูข้าวของที่จัดแสดง ทั้งที่เกี่ยวโยงกับความเชื่อทางศาสนาและศิลปะอื่นๆ ตั้งแต่ภาพวาดการตรึงกางเขนจนถึงรูปปั้นองค์พระแม่มารี เดินวนจนทั่วอีกรอบ ขึ้นบันไดหินอ่อนต่อเนื่องไปยังชั้นสอง ซึ่งมีข้าวของมากขึ้นในห้องต่างๆ และต้องกำหนดจิตคุมความคิดที่ว่า นี่คือพิพิธภัณฑ์ ไม่ใช่พื้นที่สำนักงาน เพราะมันมีความแตกต่างกันมากระหว่างการสอนให้รู้จักแยกแยะความละอายที่โอ้อวดกับโลกแห่งความเป็นจริง เดินขึ้นไปอีกชั้น ผมมาถึงมุมที่สะกดความสนใจจากผมอย่างมาก ตำราโบราณที่จารึกลายมือลงบนแผ่นหนังสัตว์วางเรียงกันเป็นตั้ง บทบันทึกของประวัติศาสตร์ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบหกเป็นต้นมา น่าเสียดายที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปชมใกล้ๆได้ ผมจึงทำได้แค่ชื่นชมอย่างหลงใหลด้วยสายตา จ้องมองสิ่งของแวววาวที่จัดแสดงอีกครั้ง แล้วก็รีบขึ้นไปชั้นสาม ซึ่งเป็นห้องสวดมนต์ Read more...

อ่านต่อไป...

เปรูมีมากกว่า Machu Picchu

ไปเยือนเปรูซ้ำ

การเดินทางไปสนามบินไม่ได้ยุ่งยากอะไร แค่นั่งแท็กซี่จากทุมเบสไปขึ้นเครื่องได้ทันเวลาพอดี เมื่อเครื่องออกมุ่งสู่ลิมา ผมมองผ่านหน้าต่างลงไปยังทิวทัศน์เบื้องล่าง แล้วก็อดที่จะนึกถึงการเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรกของผมไปเปรูเมื่อสิบปีที่แล้วไม่ได้ ครั้งแรกในประเทศเปรูเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม เราใช้เวลาสองสามชั่วโมงในลิมาเมื่อมาถึง ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังตอนเหนือของลิมา เพื่อมุ่งสู่แหล่งโบราณคดีต่างๆที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชม กระทรวงการค้าและการท่องเที่ยวได้จัดงานห้าวันเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว สู่แหล่งประวัติศาสตร์หลักๆที่สำคัญในตอนเหนือของประเทศ รวมถึงทรูยิลโล ฮัวราซ และคายามาร์กา

ในทรูยิลโลการเยี่ยมชมรวมถึงทัวร์ไปจันจัน เราได้ไปเที่ยวเดอะเวนทานิลลา เดอ โอทุซโก ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองประมาณสิบกิโลเมตร เป็นสุสานก่อนยุคอินคาซึ่งเต็มไปด้วยงานแกะสลักที่เจาะเซาะลงไปในซอกหิน และหลังจากที่อาณาจักรอินคาเรืองอำนาจ เชื่อกันว่าพวกเขาได้เจาะนำศพออกจากช่องเหล่านั้นเพื่อทำเป็นห้องเก็บธัญพืช แต่เพราะเคยมาเยี่ยมชมพื้นที่ส่วนนี้แล้ว ผมจึงตัดสินใจเดินทางตรงไปยังลิมา และมุ่งไปยังการสำรวจภาคใต้ของประเทศเนื่องจากผมพลาดทริปไปมัคชูปิจูเมื่อหลายปีก่อน

ราคาแพงในลิมา

ลิมาเปลี่ยนแปลงไป ครั้งแรกที่มาถึงเมืองนี้ สนามบินไม่ค่อยสะดวกสบายนัก ผมเสียเวลาไปพอสมควรในการหาคนที่นัดไว้ แล้วก็เหมือนสนามบินทุกแห่งบนโลกนี้ แท็กซี่เถื่อนกระหายเงินมีอยู่ทุกที่ พวกเขาตัดราคากันเอง เพื่อที่จะได้พาลูกค้าอย่างผมออกจากสนามบินไปยังจุดหมายอื่นๆตามที่ผมปรารถนา โชคดีที่ครั้งแรกผมมีคนมารับที่สนามบิน แต่รอบนี้ผมต้องหาทางเข้าเมืองเอง ผมมีที่อยู่ของเจ้าของบ้านที่ผมจะไปพัก แล้วก็ได้รับการเตือนล่วงหน้า ให้นั่งแท็กซี่จดทะเบียนจากศูนย์บริการที่สนามบิน ซึ่งทำให้ผมตระหนักว่าประเทศนี้แพงขึ้นแค่ไหน ในจำนวนประเทศทั้งหมดในทวีปอเมริกาใต้ เปรูเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุด รองลงมาจากบราซิล ในขณะที่เมืองหลวงอื่นๆค่าแท็กซี่ตกราวแปดถึงสิบห้าเหรียญ ด้วยระยะทางเดียวกันในลิมาค่าแท็กซี่แพงขึ้นอีกถึงสองเท่า มันเป็นเวลาบ่ายแก่เมื่อผมมาถึงแล้วก็เดินทางไปตามถนนเลียบมหาสมุทร ไปยังแถบมิราฟลอเรสของเมือง พื้นที่แถบนี้เป็นแหล่งที่ร่ำรวยที่สุด และยังมีวิวของคาบสมุทรแปซิฟิกที่สวยงามที่สุด มาถึงบ้านเจ้าของที่ผมเข้าพัก ผมใช้เวลาจัดแจงตัวเองไม่นานนัก ก่อนจะพร้อมออกไปรับประทานอาหารค่ำ และไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อหาซื้อซิมการ์ดใหม่ไว้ใช้เมื่อจำเป็น

เข้าร่วมทัวร์เดินเล่น

Read more... อ่านต่อไป...

ระบบราชการและพรมแดน

นรกจริงอยู่ที่ชายแดน

ถึงแม้ว่าผมจะพูดถึงสถานที่เที่ยวทั้งหมดในเอกวาดอร์ระหว่างการถกกันเมื่อวันก่อน ผมก็ไม่สามามารถเปลี่ยนแผนการเดินทางได้ และต้องไปขึ้นรถที่สถานีเพื่อจะเดินทางต่อ จากควิโตไปทุมเบสในเปรู รองเท้ายังเปียกชื้น ผมจึงต้องใส่รองเท้าแตะคร็อกแต่เพียงอย่างเดียว แต่ก็ช่างมันเหอะ เพราะผมก็จะอยู่บนรถตลอดต่อจากนี้แล้วก็ต่อด้วยการขึ้นเครื่อง รอให้รองเท้าผมแห้งภายในข้ามคืน การเดินทางที่ยาวนานอีกรอบ รวมๆแล้วเกือบจะสิบสี่ชั่วโมงจากชายแดนเปรู และอีกสี่ชั่วโมงจากทุมเบส การเดินทางราบรื่นตลอดเส้นทาง เสื้อแขนยาวทับด้วยฮู้ดแล้วก็สวมแจ็คเก็ตทับอีกชั้น และด้านในสุดยังสวมเสื้อยืด ทำให้ผมรู้สึกอุ่นสบายตลอดคืน ร้านอาหารตลอดเส้นทางรสชาติดี และผมก็สั่งอาหารเก่งขึ้น จากนั้นเราก็ข้ามเขตชายแดน ถึงแม้ประสบการณ์ที่ไม่ดีก่อนหน้านี้ทำให้ผมหวาดผวาการข้ามชายแดนไปยังเวเนซูเอลา แต่การข้ามชายแดนจากเอกวาดอร์ไปยังเปรูเกือบเป็นเรื่องยากหรือแม้แต่หนักกว่า เรามาถึงชายแดนช่วงดึกและผู้โดยสารทั้งหมดก็ต้องลงจากรถ ต่อแถวและรอ ตึกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีเจ้าหน้าที่ทำการของทั้งเอกวาดอร์และเปรู และมีผู้โดยสารอีกกลุ่มหนึ่งรออยู่ก่อนหน้าเรา

เช้าชาม  เย็นชาม…

หลังจากยืนรออยู่ครึ่งชั่วโมงก็เริ่มมีการขยับตัว และผมก็ยังต่อแถวอยู่ที่ไหนสักที่นอกสำนักงานที่กำลังจัดการกับเอกสาร อีกครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นผมจึงได้เข้าไปถึงด้านในของตึกและเห็นว่าเกิดอะไร เจ้าหน้าที่สองคนนั่งอยู่หลังเคาเตอร์ ผมจะพยายามวาดภาพให้คุณได้จินตนาการตาม เจ้าหน้าที่สองคนในหนึ่งเคาเตอร์ ผู่โดยสารร้อยห้าสิบคนที่ยืนรออยู่ เจ้าหน้าที่คนแรกพิมพ์ข้อมูลในแบบฟอร์มขาออกที่หนาเกือบเท่าพระคัมภีร์ทั้งเล่ม ลงในคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ส่งต่อพร้อมพาสสปอร์ตและเอกสารอื่นๆ ไปให้เจ้าหน้าที่อีกคนเพื่อเช็คความถูกต้องของข้อมูลที่กรอกเข้าระบบให้ตรงกัน แล้วจึงประทับตราและยื่นให้ผู้โดยสาร ทั้งหมดใช้เวลาราวห้านาทีต่อผู้โดยสารหนึ่งคน และนั่นคือแค่เสร็จสิ้นในส่วนของการออกจากเอกวาดอร์ยังไม่รวมถึงขั้นตอนเข้าเปรู ผมเริ่มต้นคำนวน ห้านาทีต่อหนึ่งคน ผู้โดยสารก่อนหน้าผม หนึ่งสองสามสามสิบห้าสามสิบห้าคูณห้าเท่ากับร้อยเจ็ดสิบห้านาที โอ้ Read more...

อ่านต่อไป...

ศิลปะโบราณและสมัยใหม่

ประวัติที่ลืมไป, ศิลปะเร้าอารมณ์และหลักการ!

Nadie pudo
recordarlas después: el viento
las olvidó, el idioma del agua
fue enterrado, las claves se perdieron
o se inundaron de silencio o sangre.

[No one could
remember them afterward: the wind
forgot them, the language of water
was buried, the keys were lost
or flooded with silence or blood.]

-Pablo Neruda, Read more...

อ่านต่อไป...

ควิโต, เอกวาดอร์, เวลาน้อยเกินไป

เดินไกลและกลัวความสูง

ไม่มีประโยชน์ที่จะเดินทางอย่างเร่งรีบ เพราะสุดท้ายแล้วมันไม่คุ้มค่า และอาจต้องเสียเงินเสียเงินและเวลาเพิ่มขึ้นกับสิ่งเดิมๆที่เราเร่งทำมาก่อนหน้า แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมไม่มีปัญหาอะไร ที่จะเดินทางไปเที่ยวทวีปอเมริกาใต้อีกครั้ง ช่วงเวลาที่เที่ยวระหว่างเส้นทางจากโคลอมเบียไปเปรูค่อนข้างน้อย ผมเลยต้องรีบเดินทางต่อไปยังควิโตเมืองหลวงของเอกวาดอร์ เพราะผมใช้เวลาหลายวันมากเกินไปในสองประเทศแรกที่เดินทาง และผมต้องการที่จะคงตารางการเดินทางเดิมที่จะถึงคูสโกประมาณวันที่ 17 ของเดือน ตามจริงแล้วควิโตและเอกวาดอร์โดยรวม ควรใช้เวลามากกว่าที่ผมกะไว้และผมก็ยังไม่ได้พูดถึงหมู่เกาะกาลาปาโกสเลยด้วยซ้ำ ด้วยกันกับเจ้าของบ้าน ผมจัดตารางการเดินทางได้อย่างลงตัว และสวยงามสำหรับการเปิดหูเปิดตาในเมืองหลวงเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ที่แรกที่ผมแวะคือศูนย์ศิลปะร่วมสมัย ที่อยู่ในระยะแค่ไม่กี่กิโลจากบ้านของเขา เดินเช็็คเส้นทางไปอย่างใกล้ชิดตามรอยแผนที่บนมือถือ ถึงผมจะเดินมามากในสองประเทศแรก แต่ก็ต้องยอมรับว่า ควิโตคือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของการเดินเท้าที่แสนยาวนาน ท่องเมืองในทวีปอเมริกาใต้

ศูนย์ศิลปะร่วมสมัยตั้งอยู่ย่านตึกเก่าที่นำมาบูรณะใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม ตึกนี้ดั้งเดิมผ่านการใช้งานมาหลายบทบาท ตั้งแต่ที่พักอาศัย มาจนถึงสถานีอนามัยที่ใช้สำหรับกักกันโรค จนถึงโรงพยาบาลทหาร ถึงแม้ว่าจะไม่มีการจัดนิทรรศการภาพบ่อยครั้งนัก แต่ตัวตึกเองก็สวยงามและเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ จากศูนย์ศิลปะ ผมเดินต่อไปยังตึก “Basilica of the National Vow” ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งศูยน์กลางแห่งประวัติศาสตร์ของเมืองควิโต ศาสนสถานนิกายโรมันคาทอลิกแห่งนี้เป็นศาสนสถานสำคัญแบบนิโอโกธิกที่ใหญ่ที่สุดของชนชาวอเมริกา (ซึ่งรวมถึงทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และอเมริกากลาง) ผมมักจะทึ่งกับความงามของสถาปัตยกรรมเหล่านี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ วิหาร ศาสนสถาน วัด สุเหร่า Read more...

อ่านต่อไป...