สถานการณ์ วิกฤต
ในที่สุดผมก็อยู่ในรถทัวร์เที่ยวดึกไปบาควิซิเมโท หลังจากถูกเปลื้องผ้า ตรวจค้นตัว และได้รับพรให้นอนหลับฝันดีจากตำรวจ การเดินทางที่เหลือผ่านไปอย่างสงบ รถหยุดที่จุดหยุดตรวจบ้างสองสามครั้งแต่ไม่มีการตรวจค้นเพิ่มเติม นอกจากการตรวจเช็คเอกสารการเดินทางตามปกติ หลายชั่วโมงผ่านไปและผมก็เริ่มคำนวนเวลาการเดินทางใหม่ และเป็นไปได้ว่าผมจะถึงที่หมายราวๆช่วงมื้อกลางวันมากกว่าที่จะเป็นมื้อเช้า ผมไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย ต้องหวังพึ่งสัญญาญไวไฟที่สถานีรถทัวร์ตอนไปถึงบาควิซิเมโท เพื่อจะส่งข้อความถึงเจ้าของบ้านของผมว่าผมถึงที่หมายแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นรถก็ขับนำผมผ่านใจกลางเมืองเพื่อที่จะไปบ้านของเจ้าภาพ ซึ่งเหมือนเป็นโอเอซิส ตึกคอนโดแนวต่ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันตามคาดหวัง
ความยากลำบากที่ผมเห็น
เจ้าของบ้านของผมเป็นสัตว์แพทย์ เขาแนะนำผมให้แม่ของเขา และหลังจากที่ผมได้วางกระเป๋าของผมในห้องของผม เขาถามผมว่าอยากจะไปแล็บคลีนิคสัตว์กับเขาเพื่อจะเอาตัวอย่างสองสามชิ้นไปทิ้งไว้หรือไม่ ผมยากที่จะปฏิเสธโอกาสที่จะได้นั่งรถดูตัวเมืองบาควิซิเมโท การจราจรไม่พลุกพล่าน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ รถส่วนใหญ่มีสภาพเก่าและผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบัน และที่เห็นชัดกว่านั้น ผู้คนต่อคิวยาวในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายของชำ เขาบอกผมว่าบางครั้งคนจะยืนต่อคิวเพื่อซื้อสิ่งจำเป็นเช่น ข้าว ข้าวโพต แป้งสาลี ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ และบ่อยครั้งอีกเช่นกันที่หลังจากการรอคอยหลายชั่วโมงพวกเขาก็ต้องหันหลังกลับเพราะสิ่งของที่รอซื้อนั้นขายหมดก่อนหน้าไปเสียแล้ว และสำหรับสิ่งจำเป็นอย่างอื่น เช่น กระดาษชำระ ยาสีฟัน น้ำตาล น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ลืมไปได้เลย ไม่มีขายมานานมากแล้ว และนี่คือคำอธิบายว่าทำไมถึงมีฝูงชนทะลักทั้งสองฝั่งของชายแดนเวเนซูเอลา–โคลอมเบีย เพื่อที่จะซื้อสินค้าและกักตุนสิ่งที่ขาดแคลนพวกเขาพกถุงใหญ่เต็มไปด้วยสินค้าที่จำเป็นกลับไปใช้ที่บ้าน “ถ้าพวกเขาจะไม่เจอยึดของที่จุดตรวจค้นเสียก่อน” เขาพูดเงียบๆ … Read more...
อ่านต่อไป...