บนขอบหน้าผา – เวเนซุเอลาจะพังพินาศ

สถานการณ์ วิกฤต

ในที่สุดผมก็อยู่ในรถทัวร์เที่ยวดึกไปบาควิซิเมโท หลังจากถูกเปลื้องผ้า ตรวจค้นตัว และได้รับพรให้นอนหลับฝันดีจากตำรวจ การเดินทางที่เหลือผ่านไปอย่างสงบ รถหยุดที่จุดหยุดตรวจบ้างสองสามครั้งแต่ไม่มีการตรวจค้นเพิ่มเติม นอกจากการตรวจเช็คเอกสารการเดินทางตามปกติ หลายชั่วโมงผ่านไปและผมก็เริ่มคำนวนเวลาการเดินทางใหม่ และเป็นไปได้ว่าผมจะถึงที่หมายราวๆช่วงมื้อกลางวันมากกว่าที่จะเป็นมื้อเช้า ผมไม่มีสัญญาณโทรศัพท์เลย ต้องหวังพึ่งสัญญาญไวไฟที่สถานีรถทัวร์ตอนไปถึงบาควิซิเมโท เพื่อจะส่งข้อความถึงเจ้าของบ้านของผมว่าผมถึงที่หมายแล้ว ไม่นานหลังจากนั้นรถก็ขับนำผมผ่านใจกลางเมืองเพื่อที่จะไปบ้านของเจ้าภาพ ซึ่งเหมือนเป็นโอเอซิส ตึกคอนโดแนวต่ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันตามคาดหวัง

ความยากลำบากที่ผมเห็น

เจ้าของบ้านของผมเป็นสัตว์แพทย์ เขาแนะนำผมให้แม่ของเขา และหลังจากที่ผมได้วางกระเป๋าของผมในห้องของผม เขาถามผมว่าอยากจะไปแล็บคลีนิคสัตว์กับเขาเพื่อจะเอาตัวอย่างสองสามชิ้นไปทิ้งไว้หรือไม่ ผมยากที่จะปฏิเสธโอกาสที่จะได้นั่งรถดูตัวเมืองบาควิซิเมโท การจราจรไม่พลุกพล่าน แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ รถส่วนใหญ่มีสภาพเก่าและผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบัน และที่เห็นชัดกว่านั้น ผู้คนต่อคิวยาวในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายของชำ เขาบอกผมว่าบางครั้งคนจะยืนต่อคิวเพื่อซื้อสิ่งจำเป็นเช่น ข้าว ข้าวโพต แป้งสาลี ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ และบ่อยครั้งอีกเช่นกันที่หลังจากการรอคอยหลายชั่วโมงพวกเขาก็ต้องหันหลังกลับเพราะสิ่งของที่รอซื้อนั้นขายหมดก่อนหน้าไปเสียแล้ว และสำหรับสิ่งจำเป็นอย่างอื่น เช่น กระดาษชำระ ยาสีฟัน น้ำตาล น้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ลืมไปได้เลย ไม่มีขายมานานมากแล้ว และนี่คือคำอธิบายว่าทำไมถึงมีฝูงชนทะลักทั้งสองฝั่งของชายแดนเวเนซูเอลาโคลอมเบีย เพื่อที่จะซื้อสินค้าและกักตุนสิ่งที่ขาดแคลนพวกเขาพกถุงใหญ่เต็มไปด้วยสินค้าที่จำเป็นกลับไปใช้ที่บ้าน “ถ้าพวกเขาจะไม่เจอยึดของที่จุดตรวจค้นเสียก่อน” เขาพูดเงียบๆ Read more...

อ่านต่อไป...

การสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัยและยุคของอินเทอร์เน็ต

ซิมการ์ดที่ทำให้การเดินทางสะดวก

การโทรคมนาคมสมัยใหม่เปลี่ยนโฉมการท่องเที่ยวอย่างพลิกฝ่ามือ คุณไม่ต้องติดต่อตัวแทนในการซื้อตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม หรือรถเช่า แล้วคอยลุ้นว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเมื่อถึงที่หมาย คุณอาจยังต้องลุ้นอยู่บ้าง แต่กับอินเตอร์เน็ตพวกเราส่วนใหญ่แค่ท่องโลกออนไลน์และค้นหาข้อมูลตั๋วเครื่องบินที่ถูกที่สุด เลือกโรงแรมในสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไป ตามคำแนะนำจากรีวิวหรือรูปภาพ เพื่อประกอบการตัดสินใจ และเลือกประเภทของการโดยสารที่ต้องการใช้ในการเดินทาง เราคุ้นชินกับมันจนบางทีลืมไปเลยว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่มีความสำคัญและอิทธิพลต่อชีวิตของพวกเรามากแค่ไหน เรารับข้อมูลความปลอดภัยและความมั่นคงในประเทศต่างๆทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง และคำแนะนำการเดินทางจากรัฐบาลที่โพสต์อัพเดทข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ นอกเหนือจากนั้น มันยิ่งสะดวกขึ้นกับการรับข้อมูลอัพเดทเรื่องสุขภาพและสภาพอากาศ บางประเด็นที่ผมเกริ่นในย่อหน้านี้เพราะผมต้องการพูดถึงสองสามประเด็นเกี่ยวกับรูปแบบที่เปลี่ยนไปของการท่องเที่ยว

แอปพลิเคชันสำหรับทุกอย่าง

ตามที่ผมเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ ผมทำการค้นคว้าข้อมูลจำนวนมากผ่านออนไลน์เพื่อเลือกวิธีการเดินทางในทวีปอเมริกาใต้ มีแอพลิเคชั่นดีๆที่ช่วยอำนวยความสะดวกของข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดตั๋วเครื่องบิน ตารางรถทัวร์ รวมถึงราคาโดยประมาณของรถโดยสารแต่ละประเภท การมีแอพลิเคชั่นเช่นนั้นบนมือถือของคุณเป็นประโยชน์ที่คุ้มค่ายิ่งนัก ในขณะเดียวกันผมได้เกริ่นไปแล้วว่าผมมีความชำนาญแค่ไหนกับการใช้โปรแกรมแปลภาษา เก่งมากเสียจนผมเคยสอนตำรวจของประเทศเวเนซูเอลาถึงวิธีใช้แอพเพื่อที่เขาจะสามารถสอบปากคำผมได้ อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสำคัญคือ แอพเหล่านี้หรือเวปไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่พักครอบคลุมตั้งแต่โรงแรม โมเต็ล หรือ โฮสเต็ล ไปจนถึงบ้านพักส่วนตัวและห้องเช่า แม้กระทั่งที่พักฟรี ผมใช้แอพพวกนี้บ่อยครั้งมากขณะเดินทาง และหลายครั้งเช่นกันที่มันช่วยให้ผมพ้นจากความยุ่งเหยิงและประหยัดงบได้เป็นอย่างมาก อีกประการที่อินเตอร์เน็ตช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้นคือคลังข้อมูลมหาศาลที่เตรียมพร้อมให้ค้นหา และนี่คือก้าวแรกที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้

ใช้เวลาเพื่อประหยัดเงิน

ตอนที่ผมเริ่มร่างแผนที่การเดินทางท่องเที่ยวทวีปอเมริกาใต้ ผมมองที่ประเทศเปรู ผมจำได้ว่าได้ไปเที่ยวประเทศนี้เมื่อสิบหกปีที่แล้ว ผมถูกหยุดที่สนามบินตอนขาออกประเทศที่แผนกบริการสุขภาพ พวกเขาขอใบแสดงผลการทำวัคซีนไข้เหลือง ผมนำสมุดบันทึกการตรวจสุขภาพและทำวัคซีนติดตัวมาด้วย แต่การครอบคลุมในช่วงระยะสิบปีนั้นหมดอายุแล้ว ซึ่งผมควรจะฉีดวัคซีนกระตุ้นอีกครั้งก่อนเดินทางไปทวีปอเมริกาใต้ และเพราะผมไม่ได้ทำ เลยกลายเป็นปัญหา ผมไม่ได้รับการอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ Read more...

อ่านต่อไป...

สอบปากคำและค้นหายาเสพติด

จับเปลือย ในเวเนซุเอลา

ผมมีบทเรียนแล้ว เราทุกคนล้วนเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง หรืออย่างน้อยผมก็หวังเช่นนั้น ผมได้ที่นั่งสุดสบายบนรถทัวร์ มีฮู้ดแจ็คเก็ตอยู่ข้างตัว ใส่เสื้อแขนยาวตัวในพร้อมสวมแจ็คเก็ตทับอีกชั้น แบ็ตมือถือชาร์จเต็ม เก็บไว้อย่างดีพร้อมปิดเครื่อง การเดินทางคืนนี้ยาวนานถึงสิบสี่ชั่วโมง แต่ผมได้เตรียมตัวอย่างพร้อมด้วยน้ำดื่ม ของกินเล่น หนังสือด็องเตดีวายน์คอมเมอดี และความตั้งใจว่าจะหลับยาวตลอดคืน เงินปึกใหญ่เก็บไว้ในกระเป๋าที่ใช้ระหว่างวันที่ตอนนี้ใช้เป็นที่พักแขนหรือจะเป็นหมอนก็แล้วแต่ว่าผมจะยืดตัวและนอนท่าไหน ผมนับเวลา ออกจากท่ารถหกโมงเย็น บวกไปอีกสิบสี่ชั่วโมง ถึงที่หมายแปดโมงเช้า โอเคนะ แค่หนึ่งชั่วโมงเกินจากตารางเวลา พอรับได้อยู่

ไม่มีอะไรให้ดูมากนักจากนอกหน้าต่าง เห็นแสงไฟบ้างเป็นบางครั้งเมื่อเราอยู่บนไฮย์เวย์ ผมสังเกตเห็นตึกรามบ้านช่องจุดโน้นจุดนี้บ้าง เมืองที่ดูแปลกตา การเคลื่อนตัวที่ใกล้เข้ามา แต่กลับไม่มีอะไรน่าสนใจ และมืดเกินกว่าที่จะมองเห็นอะไรได้ในระยะไกล ผมค่อยๆเข้าสู่ภวังค์กับการกระแทกอย่างนุ่มนวลของรถทัวร์ในขณะเคลื่อนตัวให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนอนอยู่ในเปลเด็ก

 

 

หายใจลึก ๆ และจงสงบ …

มันเป็นเวลาเที่ยงคืนตอนรถหยุด และไม่เหมือนกับการหยุดในครั้งก่อนๆ บางอย่างแตกต่างกว่าครั้งอื่นๆที่ผ่านมา แล้วผู้โดยสารก็เริ่มตื่นและมองออกไปนอกหน้าต่างว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เห็นอะไรชัดมากนักจนกระทั่งคนในเครื่องแบบเดินขึ้นมาและผู้โดยสารก็ค่อยๆเริ่มลุกขึ้นยืนและก้าวลงจากรถ ในทันทีที่ก้าวสุดท้ายของผมแตะพื้น มีมือยื่นมาขอตรวจพาสสปอร์ตของผม มองรูปผมในพาสสปอร์ตแว่บหนึ่งแล้วก็โบกมือให้ผมผ่านไป มีการเคลื่อนไหวที่ท้ายรถ กระเป๋าสัมภาระทั้งหมดถูกดึงออกจากช่องเก็บของ ผู้โดยสารแต่ละคนระบุสัมภาระของตนเอง นี่เองสินะ ที่บล็อกต่างๆเขียนถึง หรือบล็อกที่กล้าเขียนเล่าเรื่องน่ากลัวเหล่านี้ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างช้าๆ และสัญญากับตัวเองว่ามันเป็นแค่ประสบการณ์อย่างหนึ่ง ยิ้มเข้าไว้ ไม่ต้องตื่นพะวงอะไร Read more...

อ่านต่อไป...

ความเอื้ออาทรและความเมตตาชนะความทุจริต

ทุจริตทั้งหมด!

วิวจากเบาะหลังรถช่างรื่นรมย์ ชนบทเขียวขจี สภาพถนนราบเรียบ เทือกเขายาวต่อกันไกลสุดลูกหูลูกตา บทสนทนาที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถกประเด็นการเมือง ความตกต่ำทาง เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่ผูกความหวังไว้กับอุตสาหกรรมน้ำมันตอนที่เคยขายได้ที่มูลค่ามากกว่าร้อยดอลลาร์ต่อบาร์เรล หมูตะกละจำนวนมากผมก็แค่นั่งฟังความคิดเห็นเหล่านั้นไปเงียบๆ

เราถูกเรียกเพื่อหยุดตรวจแค่ครั้งเดียว และไม่จำเป็นต้องลงจากรถ หรือแม้แต่เปิดฝากระโปรงท้าย จะว่าไปแล้วก็ไม่มีอะไรเลวร้ายนักอย่างที่ได้ฟังมา หรือเพราะผมอาจจะโชคดีมากกว่า น่าจะเป็นประการหลัง เวเนซูเอลาเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนความสั่นคลอนของการล่มสลาย สิ่งจำเป็นหลายอย่างขาดแคลน แม้แต่น้ำอัดลมหวานๆ มีเพียงน้ำอัดลมแบบไร้น้ำตาลตั้งเรียงอยู่ในร้าน และสิ่งต่างๆอย่างอื่นก็ไม่มีเช่นกัน ผมไม่รู้ว่ามีอะไรอื่นอีกจนคล้อยมาสองสามวันหลังจากนั้น ในขณะเดียวกันเพื่อนผู้มีน้ำใจของผมเล่าให้ฟังว่าโรงงานซีเมนต์ที่ครั้งหนึ่งเคยผลิตซีเมนต์ได้มากถึงหนึ่งหมื่นห้าพันกระสอบต่อวัน ผลิตได้ลดลงเหลือเพียงพันห้ากระสอบเพราะการจัดการที่ล้มเหลวและนักปฏิบัติการที่ชำนาญถูกแทนที่ด้วยพวกเพื่อนของนักการเมืองที่ขาดความสามารถ มันช่างฟังเหมือนคอมมิวนิสต์ยิ่งนัก มีเรื่องอื่นที่คล้ายคลึงกันเช่นแหล่งเกษตรกรรมขนาดใหญ่ถูกควบคุมกิจการ ฟาร์มซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีกำลังผลิตเพียงพอที่จะผลิตนม ข้าวโพด และเนื้อสัตว์ ที่จะรองรับความต้องการของประชากรในประเทศได้ทั้งหมด ปัจจุบันสิ่งอุปโภคบริโภคที่จำเป็นกลับต้องนำเข้ามาหรือลักลอบส่งข้ามชายแดน (มีรายงานที่กล่าวว่ากองทัพถูกแต่งตั้งให้เข้ามาควบคุมการจัดจำหน่ายอาหาร ปราศจากการอนุมัติจากพวกเขา จะไม่มีสิ่งใดนำออกมาจำหน่ายในประเทศได้ เหมือนจะบีบคอบังคับประชาชนให้ขาดใจตาย ช่างเป็นระบบคอรับชั่นที่สมบูรณ์แบบเสียนี่กระไร)

เทวดาผู้พิทักษ์

แซน คริสโตบอลตั้งห่างจากชายแดนประเทศโคลัมเบียเพียงระยะทางห้าสิบกิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาขับรถเกือบสองชั่วโมง เมืองที่มีประชากรราวสองแสนห้ากระจายตัวตั้งถิ่นฐานอยู่ตามหุบเขาและต่อขยายไปตามแนวเขา เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่มั่งคั่งเป็นอันดับที่สามของเวเนซูเอลา เมื่อแหล่งน้ำมันถูกค้นพบที่นี่ รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ทางการเกษตร น่าเสียดายที่ผมไม่มีเวลาที่จะอยู่และเที่ยวชมเมืองสักวันหรือสองวัน พวกเรามาถึงสถานีรสบัสเมื่อเวลาบ่ายโมง แล้วก็ตรงไปซื้อตั๋วทันที Read more...

อ่านต่อไป...

ปัญหาที่ต้องเผชิญกับการข้ามพรมแดนของประเทศ

คุณกำลังเข้ามาอย่างเป็นทางการ …

ตู้คอนเทนเนอร์สีแดงจ้าที่แปะหน้าตู้ว่า “ตรวจคนเข้าเมือง” ประตูปิดอยู่ บานหนึ่งแปะว่า “ทางเข้า” อีกบานเขียนว่า “ทางออก” แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ มันต้องไม่ใช่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างเป็นทางการที่จัดการเรื่องวีซ่าเข้าประเทศแน่ๆ สิ่งที่ผมอ่านมาทั้งหมดเกี่ยวกับการขอวีซ่าเข้าประเทศนั้นเป็นระบบที่แปลกมาก เพราะจะต้องเดินทางต่อเข้าไปเมืองซาน อันโตนิโออีกหนึ่งกิโล เพื่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างเป็นทางการ พิลึกมาก  ใครก็ตามที่อยากลักลอบเข้าประเทศแล้วหายตัวไปนั้นย่อมสามารถทำได้โดยง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลากับขั้นตอนที่ยุ่งยากของพิธีการตรวจคนเข้าเมือง อย่างไรก็ตามและขอบคุณพระเจ้า ที่เพื่อนผมจากโคลัมเบียมากับผมด้วย เราเดินทางไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอย่างเป็นทางการ แต่กลับกลายเป็นว่าที่นั่นไม่สามารถออกวีซ่าเข้าเมืองให้เราได้ เพราะไม่ใช่สำนักงานอย่างเป็นทางการอีกต่อไป แต่ตู้คอนเทนเนอร์แดงนั้นเป็นจุดสำแดงตนอย่างเป็นทางการ เราถกเถียงกันว่า ในเมื่อเรามาถึงสำนักงานซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นสำนักงานอย่างเป็นทางการแล้ว ทำไมพวกเขาไม่สามารถช่วยเราได้ในครั้งนี้เมื่อเห็นได้ชัดว่ามีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ที่นั่น  แต่ในทางปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจะช่วยอะไรพวกเราได้เพราะเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบประทับตราเอกสารวีซ่าอย่างเป็นทางการไม่ได้ประจำการที่นั่น ในที่สุดเราก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากกลับไปต่อแถวที่ตู้คอนเทนเนอร์สีแดง โชคดีที่ที่นี่คือเวเนซูเอลา และโชคร้ายที่มันคือเวเนซูเอลา

ความไม่แน่นอน …

โชคดีที่แถวที่ยาวที่สุดคือชาวเวเนซูเอลาที่กำลังกลับบ้าน และพวกเขาก็ไม่ต้องมีประทับตราวีซ่า แน่นอนผมไม่จำเป็นต้องไปต่อแถวนี้เพราะผมต้องมีตราประทับ โชคร้ายที่ความวุ่นวายทางการเมืองสร้างปัญหากับสัญญาณอินเตอร์เน็ตบ่อยครั้ง และเมื่อผมเดินเข้าสู่ตู้คอนเทนเนอร์แดงนั้น มีแค่ทางเลือกเดียวคือต้องรอ ไม่มีการต่อแถวอย่างจริงจัง มีแค่สามคนที่นั่งรออยู่เหมือนกัน เพื่อนชาวโคลัมเบียของผมเริ่มคุยกับคนหนึ่ง ในขณะที่ผมเองก็เริ่มคุยกับสุภาพบุรุษอีกท่านหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะมาจากประเทศทางแถบยุโรปประเทศใดประเทศหนึ่งถ้าฟังจากสำเนียง Read more...

อ่านต่อไป...