ความเชื่อมั่นที่เป็นศูนย์ในเวเนซุเอลา

ทบทวน ‘ตัวเลขศูนย์‘ ของอารยธรรมโบราณ

เมื่อไม่นานมานี้ผมอ่านเรื่องสั้นเกี่ยวกับอารยธรมชนเผ่ามายาของทวีปอเมริกาใต้ และวิวัฒนาการการใช้ตัวเลขที่เรียกว่า ‘explicit zero’หรือการมีตัวเลขศูนย์ครั้งแรกในโลก เชื่อผมเหอะ ถ้าใครเป็นนักคณิตศาสตร์ย่อมถกเถียงประเด็นนี้ได้เป็นชั่วโมงๆว่าทำไมมันถึงสำคัญนัก แต่เรื่องสั้นที่ผมได้อ่านนั้น กลับพาผมย้อนเวลานึกไปถึงความทรงจำของการเดินทางในบ่ายแก่ๆจรดเย็นเที่ยวชมเมืองคูคูตากับเจ้าบ้านของผม คูคูตามีถนนชื่อว่าอเวนิดาซีโรหรือถนนสายหมายเลขศูนย์ ซึ่งเป็นถนนที่อาจบอกได้ว่าเป็นถนนที่แบ่งเขตฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมือง และซึ่งจะปิดถนนเป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันเฉพาะกิจ ในช่วงเย็น เช่นเดียวกับการปิดถนนในโบโกตาช่วงวันอาทิตย์

โอกาสท่องเที่ยวมากมาย

คูคูตาถูกนำมาเขียนถึงในหลายต่อหลายเรื่อง และมักจะเกี่ยวเนื่องกับชายแดนเวเนซูเอลา ที่เป็นที่รู้จักกันดีกับประวัติการลักลอบนำเข้าที่เกิดขึ้นมากกว่าเรื่องอื่นใด แต่จริงๆเมืองที่วุ่นวายนี้มีอะไรมากมายที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว แผนการเดินทางของผมคือพักที่เมืองนี้หนึ่งวัน แล้วค่อยข้ามแดนไปเวเนซูเอลา แผนสบายๆอะไรเทือกนั้น

ผมมาถึงตอนเย็นของวันที่ 30 สิงหาคม หวังจะใช้เวลาหนึ่งวันในคูคูตา แล้วก็ข้ามไปเวเนซูเอลาในวันที่ 1กันยายน แต่โชคไม่ดีที่สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้นมีการเดินประท้วงเกิดขึ้นในคาราคัสในวันที่ 1 พอดี ผมโต้แย้งกับเจ้าบ้านที่ผมไปพักด้วยและเพื่อนๆของผมที่อีกฝั่งชายแดน และการโต้เถียงไม่ให้ผมเดินทางต่อก็เริ่มจะฟังดูมีเหตุผล “ถ้าเกิดชายแดนถูกปิดล่ะ” ถ้าเช่นนั้นผมก็ไม่สามารถข้ามไปได้ นั่นหมายถึงผมต้องรีบเดินทางต่อทันทีตั้งแต่วันที่ 31แต่แล้วการโต้เถียงก็แย้งขึ้น “แล้วถ้าชายแดนถูกปิด คุณก็กลับออกมาไม่ได้นะ” และนั่นก็ทำให้ผมหยุดกึก ไม่ว่าผมอยากจะท่องเที่ยวเวเนRead more...

อ่านต่อไป...

อุบัติเหตุ ตารางเวลารถโดยสาร และกรับ

อย่าเชื่อทุกสิ่งที่คุณอ่าน (ยกเว้นบล็อกนี้)

หนึ่งหรือสองตอนที่แล้วผมพูดถึงการเดินทางด้วยรถทัวร์ในอเมริกาใต้ ผมขึ้นรถจากซานจิลไปคูคูตาราวบ่ายสอง และคาดหวังว่าจะถึงบ้านที่ผมเข้าพักในคูคูตาประมาณสองทุ่ม ฝันไปเหอะ เมื่อคุณดูตารางรถทัวร์ที่พิมพ์แจกในอเมริกาใต้ คุณต้องบวกเข้าไปอีกหนึ่งชั่วโมงในทุกๆสี่ชั่วโมงของการเดินทางตามตารางรถ ทริปของผมที่ควรจะเป็นหกชั่วโมง กลับกลายเป็นการเดินทางที่แสนยาวนาน และผมก็ไม่อาจโยนความผิดให้คนขับได้

 

ทุกอย่างวุ่นวาย

การเดินทางเริ่มต้นอย่างราบรื่น อากาศดี วิวในชนบทร่มรื่นสบายตา ตกค่ำอุณหภูมิลดลง และในไม่ช้าฝนก็เริ่มตก เฮ้อ นักเดินทางที่น่าสงสาร ผมไม่เคยจำบทเรียนที่จะแพ็คเสื้อแจ็คเก็ตผ้าอุ่นๆและผ้าห่มติดตัวเวลาขึ้นรถทัวร์รอบดึก เมื่อถึงหกโมงเย็นก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผมจะไม่มีทางถึงที่หมายในเวลาสองทุ่มอย่างแน่นอน เดาคร่าวๆก็น่าจะราวสี่ทุ่ม เพราะฝนที่ตกลงมายิ่งทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้าลง ในขณะที่เรากำลังขับผ่านหุบเขา สัญญาณมือถือเริ่มขาดหาย ทันทีที่มีสัญญาณ ผมจึงรีบส่งข้อความให้ปลายทางรับทราบว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ไหนและจะถึงประมาณกี่โมง เฮ้อ ผมช่างไม่ต่างจากเด็กหลงทางในป่าทึบ การเดินทางหนึ่งวันจากโบโกตาไปซานจิลผ่านไปด้วยดี ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด แต่กระนั้น เมื่อถึงสามทุ่มผมก็รู้แล้วว่าการจะถึงคูคูตาก่อนเที่ยงคืนนั้นแทบไม่มีหวัง ฝนตกหนักขึ้น การจราจรทั้งสองฝั่งRead more...

อ่านต่อไป...

อาหารและ Déjà vu ที่ ซานจิล

บนท้องถนนไปที่ชายแดน

มีที่ให้เที่ยวมากมายในโคลอมเบีย เหตุผลเดียวที่มาหยุดที่ซานจิลแทนที่จะไปคาตาเกนาเพราะผมต้องการไปเวเนซูเอลา และซานจิลก็สะดวกอยู่แค่ครึ่งทางระหว่างโบโกตาและคูคูตา สิ่งที่ผมไม่ได้ตระหนักเกี่ยวกับซานจิลคือที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของสารพัดกิจกรรมผจญภัย ตั้งแต่ปั่นจักรยานจนถึงล่องแพ ปีนผาจนถึงขี่ม้า และอีกมากมาย น่าเสียดายที่ผมมารู้เอาทีหลังแล้วผมก็ดันจองตั๋วรถทัวร์ไปคูคูตาเสียแล้ว

 

Déjà vu ที่ ซานจิล

ซานจิลเป็นเมืองเล็กๆซึ่งมีจตุรัสกลางเมืองที่สวยงามและตลาดที่มีสีสันและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา  ก่อนที่จะมาถึงที่นี่ ผมยังไม่เคยได้ซื้ออาหารกินเองเลย เพราะที่ผ่านมามีคนพาผมไปชิมโน่นนี่ตลอด ที่นี่แตกต่าง เดินเล่นชมตลาดตอนช่วงบ่ายโมงกลิ่นอาหารที่โชยมาช่างยั่วน้ำลายและทำให้ท้องร้องจ๊อกๆเลยทีเดียว ไม่มีอะไรควรทำมากไปกว่าการรีบหาร้านและก็สั่งอาหารมากินเพื่อหยุดเสียงประท้วงจากกระเพาะ ปัญหาคือ ผมไม่รู้ว่าจะสั่งอาหารอย่างไร หรือเรียนรู้ว่าร้านอาหารส่วนใหญ่มีเมนูเซ็ตอาหารกลางวันขาย อาหารกลางวันที่มีทั้งซุป ผัก เนื้อสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่ง ข้าวหรือมันฝรั่ง แล้วก็ขนมหวาน รวมทุกอย่างไว้อย่างครบเซ็ต

ขณะที่ผมเดินไปตามแผงร้านขายอาหารต่างๆ ตาผมก็ไปสะดุดกับเมนูข้าวหน้าไก่ที่ดูน่าเอร็ดอร่อยจานหนึ่ง และตลอดการพยายามสื่อสารและใช้ภาษามืออย่างเงอะงะ ในที่สุดผมก็สามารถสั่งอาหารจานหนึ่งที่อยากกินได้สำเร็จ ด้วยรอยยิ้มที่เชื้อเชิญและให้นั่งรอ วินาทีนั้นเสมือนโลกจะหยุดหมุนไปชั่วขณะ แล้วความทรงจำหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในห้วงคิด พร้อมกับรอยยิ้มที่ทาบทับบนใบหน้าของผม คล้ายกับผมกำลังย้อนเวลากลับไปเมื่อสามสิบปีก่อนที่เหตุการณ์เดียวกันนี้ได้เกิดขึ้น เดือนเดียวกัน และ ณ เวลาเดียวกันที่แทบจะทับซ้อนเป็นเดจาวู สิงหาคมปีคศ.1986 ผมยืนอยู่ข้างหน้าแผงขายอาหารในตลาดในหัวหิน มีร้านขายข้าวมันไก่ที่ดูน่าเอร็ดอร่อยเต็มไปหมด ด้วยการชี้นิ้วและบอกเสียงเบาๆ ผมสามารถสั่งข้าวมันไก่จานหนึ่งได้สำเร็จ อาหารที่ผมจะอิ่มอร่อยซ้ำๆอย่างไม่เบื่อไปตลอดหนึ่งหรือสองอาทิตย์ข้างหน้าจนกว่าผมจะเรียนรู้ภาษาไทยมากพอที่จะสั่งจานอื่นเช่นผักหรือหมูแทนได้บางครั้ง ขณะที่ผมนั่งรออาหารในซานจิล ผมอดที่จะอมยิ้มไม่ได้กับสถานะการณ์ที่ช่างไม่แตกต่างกันเลย

ไม่นานนักอาหารจานแรกก็ถูกนำมาเสิร์ฟ ข้าวจานใหญ่โปะราดด้วยเนื้อไก่แล้วก็ผัก ต่อจากนั้นซุปก็ถูกนำมาตั้งบนโต๊ะ Read more...

อ่านต่อไป...

การเดินทางด้วยรถบัส : ตะวันออก vs ตะวันตก – ความสุขอยู่ที่การเดินทาง

อุบัติเหตุรถบัสหรือถูกยิงที่ชิคาโก อะไรน่าจะเกิดขึ้นมากกว่า

รถโดยสารในอเมริกาใต้สุดยอดมาก ไม่บ่อยนักที่คุณจะได้ฟังอะไรในทางบวกเกี่ยวกับการบริการขนส่งมวลชนในอเมริกาใต้ แต่มีทางเลือกอะไรบ้างล่ะ บริการรถไฟก็แทบจะไม่มี และในพื้นที่การให้บริการก็เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวมากกว่าเพื่อระบบขนส่งมวลชน มีคนจำนวนมากถกเรื่องความปลอดภัยของรถโดยสาร ความอันตราย บางครั้งการขับอย่างขาดความรอบคอบ ถนนที่สภาพแย่ ความปลอดภัยของผู้โดยสารในรถ และสารพัดที่จะยกมา ผมว่าพวกเขาต้องเคยแต่ขับรถส่วนตัวไปไหนต่อไหน และไม่เคยใช้บริการรถสาธารณะในเอเชียแน่ๆ

ผมเคย!

รถบัสสีส้ม – ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ผมจำได้ดีตอนเดินทางด้วยรถโดยสารจากกรุงเทพฯไปหัวหินในเมืองไทยที่เรียกว่า “รถส้มสายมรณะ” รถโดยสารสีส้มที่แล่นระหว่างจังหวัด ถนนที่มุ่งสู้ภาคใต้ในยุคนั้นเป็นเลนคู่ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ คลอง และไหล่ทางแคบๆ ช่วงหนึ่งรถส้มที่ผมนั่งเร่งเครื่องแข่งกับรถส้มอีกคัน กระเป๋ารถบนรถผมยื่นตัวออกไปนอกประตูโบกมืออย่างบ้าคลั่งเพื่อให้รถคันนั้นชะลอตัวลงให้คันของเราเร่งนำไปได้ แต่รถอีกคันก็ไม่ได้ยอมให้เราตัดหน้า ทันใดนั้นทั้งสองคันก็เริ่มแผดเสียงแตรใส่กันและมันก็ไม่ใช่เสียงแตรปกติแบบที่คุณได้ยินกันทุกวัน แต่เป็นเสียงแตรที่แผดก้องจนแสบแก้วหูได้ยินกันทั่วบาง และแล้วก็มีอีกเสียงตอบกลับมา เสียงบีบแตรอย่างยาวจากรถข้างหน้าที่วิ่งพุ่งตรงมายังเลนเรา หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็ต้องบอกว่าเลนเขา ก็ในเมื่อพวกเราเบียดกินเลนของเขาอยู่ ใช่ รถบัสสองคันเบียดแข่งกินเลนอย่างไร้สติ เสียงแตรจากรถทั้งสามคันกรีดกระแทกเสียงใส่กันอย่างไม่ลดละ แถมรถคันนี้วิ่งพุ่งตรงมาทางเราด้วยความเร็วระดับมหากาฬ ไม่มีรถคันไหนชะลอความเร็ว รถทุกคันเร่งเครื่องแข่งกันด้วยความเร็วสุดตีนผี และในทันใดนั้น รถทั้งสามคันก็อัดอยู่ข้างกัน ขับแฉลบทับสองเลนและบนไหล่ทางแคบๆ เฉียดต้นไม้สองข้างทาง

ความเคลื่อนไหวเดียวที่สายตาผมพอจะจับได้คือกระเป๋ารถคันของเราดึงตัวของเขากลับเข้ามาในรถซึ่งห่างจากรถอีกคันแค่ไม่กี่มิล ไม่มีเสียงลอดออกมาจากปากผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่หลับอยู่ตลอดเหตุการณ์ระทึก ในขณะที่อีกส่วนแค่จ้องไปข้างหน้าลุ้นตัวโก่ง

ตั๋วรถบัสที่พอๆ กับราคาตั๋วเครื่องบิน

Read more... อ่านต่อไป...

การเดินทางเพื่อลดน้ำหนัก … สนุกกว่าการอดอาหารและยิม

การเดินทางเพื่อลดน้ำหนัก … สนุกกว่าการอดอาหารและยิม

ผมหนักถึง 100 กิโลกรัมตอนผมออกจากแคนาดา นั่นก็ประมาณ 220 ปอนด์ และผมสูง 1.88 เมตร (6 ฟุต 2 นิ้ว ถ้านับแบบเก่า) ผมกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะมันจะมีบทบาทสำคัญต่อเรื่องราวทั้งหมด ถึงแม้ว่าผมจะใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉงตอนที่ผมอยู่มหาวิทยาลัยในแคนาดา การปั่นจักรยานและการเดินออกกำลังก็ไม่ได้ผลอะไรนักกับสิ่งที่ผมหวังว่ามันจะช่วยได้ และนั้นก็คือการกระชากไขมันออกจากร่าง เป้าหมายคือต้องกลับไปที่น้ำหนัก 88 กิโลเพราะหลังของผมเริ่มบ่นกับการขยายของไซส์พุง และเข่าผมถึงแม้จะยังไม่ได้กู่ก้องประท้วง แต่มันก็เริ่มส่งสัญญาณเตือนแล้ว คาดว่าอาหารที่ผมกินติดต่อกันมาตลอดมันปริมาณมากเกินไปเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอที่จะเผาผลาญส่วนเกินออกได้หมด เมื่อผมกลับจากทวีปอเมริกาใต้ ผมหนัก 88 กิโล ผมเอาชนะมันได้ในเวลาเพียงสองเดือน ทั้งที่มันเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถทำได้แม้แต่หกเดือนถ้าอยู่บ้าน ผมกินปกติ วันละสามมื้อ แต่เพราะผมทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เดินและปีนเขาไม่หยุดหย่อน นั่นแหละผมถึงพิชิตมันได้ ที่น่าแปลกมากเช่นกันคือ ในระหว่างการเดินทางนั้นผมไม่เคยป่วยเลยแม้แต่ครั้งเดียว (ไม่นับอาการมึนเวียนในที่สูง) ผมไม่เคยมีปัญหาท้องไส้ปั่นป่วน หรือแม้แต่เป็นหวัดหรือเป็นไข้ ทั้งที่มีช่วงเวลาหลายวันที่ไม่ได้สัมผัสความอบอุ่นเลย ผมเดินฝ่าห่าฝน อากาศเยือกแข็ง สลับกับสภาพร้อนชื้น แต่กระนั้นผมก็ยังแข็งแรงมาก ร่างกายที่ฟิตคือผลพลอยได้ที่ดียิ่ง

ข้าวโพดและอาหาร

Read more... อ่านต่อไป...