แม่โขง: แม่น้ำจ้อหรือวิสกี้พูด

แม่โขงเปล่งเสียง????

หลังจากมาถึงได้สองสามวัน หนึ่งในมือเก๋าผู้ชำนาญรับอาสามารับผมได้ดูสถานที่ทำงานในอนาคต ร้อยกิโลจากเมืองหลวงไปทางทิศตะวันตก มันเป็นการต้อนรับที่ทำให้ปลอดโปร่งใจเป็นอย่างยิ่งที่สุดที่จะได้ออกจากเมืองเสียที การจราจรที่ติดขัด มลพิษความร้อนอบอ้าว ทุกอย่างเกินจะทนต่อไป ผมอยากจะได้สัมผัสบรรยากาศหรือได้เห็นทัศนียภาพแถบริมฝั่งน้ำหรือไร่ในชนบทบ้าง นี่คือที่ๆรุ่นพี่ของผมใช้เวลาในหนึ่งปีที่ผ่านมาให้บริการช่วยเหลือพวกชาวไร่ด้วยการเป็นสัตวแพทย์ และนี่คือสถานที่ที่ผมจะใช้เวลาสองปีของสัญญาการจ้างงานทำงานร่วมกับชาวฟาร์มโคนม เป็นสัปดาห์ที่ผมเดินทางอย่างมาก และการแนะนำตัวต่อผู้คนที่ถ้าไม่ทำให้ผมแกร่งขึ้นก็ร่วงลงเหวในอีกสองปีข้างหน้า ที่พักกว้างและโอ่โถงทีเดียว บ้านสองชั้นพร้อมพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวาง แต่พวกเราพักอยู่ร่วมกันราวสิบคน และมีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ซึงก็คือเพื่อนรุ่นพี่ชาวแคนาดาของผมนั่นเอง การสื่อสาร กับคนที่เหลือในบ้านก็ผิดๆ ถูก ๆ และส่วนใหญ่ก็มักจะผิด

 

 

ไม่ต้องกังวลเรื่องไวยากรณ์…แค่พยายามที่จะพูด

คนไทยส่วนใหญ่ได้เรียนภาษาอังกฤษมาบ้าง ไม่ว่าจะระดับประถม มัธยม หรืออุดมศึกษา ความผิดพลาดประการเดียวคือใช้เวลาในการพยายามที่จะเน้นให้เด็กนักเรียนเก่งด้านไวยากรณ์ ซึ่งไม่ได้ช่วยให้พวกเขานำมาใช้สื่อสารได้ในชีวิตจริง เพราะมัวแต่มุ่งเน้นไปกับการหารูปประโยคที่ไวยากรณ์ถูกต้องสมบูรณ จะว่าไปแล้วเมื่อพูดถึงเรื่องไวยากรณ์ ผมเชื่อว่าเด็กไทยเก่งไม่แพ้เจ้าของภาษา แต่เมื่อมาถึงจุดที่ต้องพูดสื่อสารกันจริงๆ Read more...

อ่านต่อไป...

คืนแรกในกรุงเทพฯ

การขับรถเร็วละคืนหนึ่งในกรุงเทพฯ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมทิ้งพวกคุณค้างไว้ที่สนามบินดอนเมือง และกระชากอารมณ์ความต่อเนื่องอย่างรุนแรงด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับคำถามของคนไทยและเรื่องราวเหล่านั้น จริงๆมันไม่มีอะไรมากนักที่จะเล่าเกี่ยวกับการเดินทางจากสนามบินเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร อาจมีบ้างเรื่องสองเรื่อง เช่นเมื่อเราเคลื่อนตัวขึ้นทางด่วนแห่งใหม่ที่น่าตื่นตา ถนนวิภาวดีรังสิตปรับเป็นทางด่วนยกระดับแล้วเสร็จในยุค ต้นทศวรรษ 80 แล้วเราก็ขับบนทางด่วนนั้นได้อย่างสบาย ประสบการณ์ครั้งแรกของผมบนถนนของเอเซีย และผมก็อยากมีประสบการณ์เช่นนั้นมากขึ้น คิดดูสิ เร่งความเร็วได้ตามใจอยาก ไม่มีสัญญาณไฟ ไม่มีตำรวจทางหลวงมาจับหรือแจกใบปรับคุณ และนี่กระมังทำไมกรุงเทพถึงมีรถติด ก็เพื่อจะบังคับไม่ให้ขับได้เร็วเกินอีกต่อไป

มันไม่ได้เป็นตามที่พวกเขาบอกว่ามันจะเป็น …

สามสิบชั่วโมงกว่าแล้วตั้งแต่ผมหลับครั้งสุดท้าย ดังนั้นการเดินทางทั้งหมดจึงไม่มีอะไรมากไปกว่าการเห็นภาพต่างๆเคลื่อนผ่านอย่างเร็วขณะรถขับไปบนทางด่วน เราขับผ่านตึกรามบ้านช่อง ชุมชนแออัด วัดวาอารามที่สวยงามวิจิตรา และในที่สุดก็เข้าสู่ใจกลางเมือง ลงจากทางด่วนและขับต่อไปบนถนนปกติ ซึ่งทุกอย่างเคลื่อนที่ช้าลงเหมือนแทบจะคลาน กระดึ้บๆไปตามเส้นทาง การเคลื่อนตัวอย่างไม่ติดขัดจากสนามบินกลายเป็นเพียงความทรงจำ ระดับความเร็วลดลงเหลือเพียงสิบเอ็ดกิโลต่อชั่วโมง ตึกที่สูงที่สุดที่ผมสังเกตเห็นคือตึกใบหยกทาวเวอร์ 1 และตึกโรงแรมดุสิตธานีบนหัวมุมถนนสีลมตัดกับถนนพระรามสี่ยังเป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในเมือง ไม่มีตึกสำนักงานใหญ่ๆ ไม่มีตึกระฟ้าใดๆ และแน่นอนมีห้างสรรพสินค้าเพียงไม่กี่แห่ง ทุกอย่างถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างมากและรวดเร็วในช่วงยุค ทศวรรษ 90 แต่นั่นก็เป็นเรื่องราวสำหรับวันอื่น จำได้ไหมที่ผมเกริ่นถึงช่วงที่ผมเข้ารับการอบรมที่ออตตาวาที่เราถูกป้อนข้อมูลเกี่ยวผ้าขาวม้าและโสร่ง ยังไงน่ะหรือ ตั้งแต่เราเคลื่อนตัวอย่างช้าๆจากถนนพระรามสี่เพื่อเลี้ยวเข้าถนนสาธร ผู้คนเดินกันขวักไขว่แต่ผมยังไม่เห็นใครใส่ชุดที่พวกเขาบอกผมตอนอบรมว่ามันเป็นชุดที่คนประเทศนี้สวมใส่กัน Read more...

อ่านต่อไป...

เตรียมพร้อมสำหรับคำถาม 20 ข้อ

ทะลึ่ง? 

ไม่เลย…

เมื่อหลายปีก่อน ราวสิบปีหรือกว่านั้น ผมเริ่มบันทึกงานเขียนเกี่ยวกับประเทศไทยและประสบการณ์ของผมในประเทศนี้ การทดสอบในตอนนั้นถูกตั้งชื่อว่า ยี่สิบคำถาม แล้วผมก็นึกภาพตามว่าผมจะต้องพิมพ์รวมเล่มเมื่อเขียนได้ถึงยี่สิบตอนหรือกว่านั้น ชื่อหนังสือจะต้องเกี่ยวเนื่องกับอะไรที่หลายคนชอบถามผมตอนมาถึงเมืองไทยใหม่ๆในปี 1986 ตอนมาถึงใหม่ๆ ผมถูกเผาซะเกรียม ไม่มีคำถามใดที่ถือว่าล่วงล้ำหรือหยาบคายถ้าพวกเขาอยากจะรู้ สำหรับคนที่อยู่มานาน พวกเขารู้วิธีรับมือกับคำถามเหล่านั้น แต่สำหรับผมซึ่งเป็นมือใหม่ในขณะนั้นถือว่าหนักหนาสาหัสเอาการ ดังนั้นผมจึงหาวิธีจัดการกับมนุษย์เจ้าคำถาม ด้วยการรวบรวมคำถามยี่สิบข้อที่ถูกถามบ่อยไว้ในบทบันทึกของผมเสียเลย ดูจากบริบทนั้นแล้ว ผมต้องสารภาพหลายข้อก็ตกยุคไปเสียแล้ว ในขณะที่บางอย่างก็ยังใช้ได้อยู่หรือปรับเปลี่ยนไปบ้าง สิ่งที่คุณกำลังจะได้เริ่มต้นอ่านต่อไปนี้ เป็นบทที่ปรับแล้วจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมในยุคนั้น

ล้อเลียนที่ไม่เป็นภัย

แต่ก่อนที่ผมจะเริ่มเขียนเรื่องเหล่านั้นและสังเกตการณ์ บางทีผมควรให้ไอเดียคร่าวๆกับคุณก่อนว่าการแสดงความเห็นแบบไหนที่ผมต้องเจอ และคำถามประเภทไหนที่คนไทยชอบถามบ่อยๆ (และแม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังถูกถามอยู่ดี ตามที่เพื่อนผมเล่าให้ฟัง) การถูกทักแบบไทยๆด้วยคำถามหรือการตั้งข้อสังเกต คุณดูอ้วนขึ้นนะ หรือ ทรงผมใหม่ไม่เหมาะกับหน้าคุณเลย นั่นปกติมากที่จะคาดว่าคนฟังจะไม่มีปฎิกิริยาอะไรตามมา ไม่มีการแจ้งหมิ่นประมาทหรือถูกด่ากลับ มันเป็นวิถีปกติของวัฒนธรรมไทย เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งเขียนถึงผม เมื่อใดที่ทั้งสองฝ่ายเป็นอันเข้าใจมุกตลกร้าย ความตลกที่ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัย และเย้ยหยันยิ่งกว่านั้นคือ Read more...

อ่านต่อไป...

เดินทางถึงสนามบินนานาชาติดอนเมืองกรุงเทพฯ

มันร้อน และเปียก และเหนียว …

สำหรับใครที่อายุมากพอคงจำได้ เคยมีสายการบินประจำชาติของเบลเยี่ยมชื่อซาเบนา ซึ่งอยู่ในธุรกิจมานานและเป็นหนึงในเหยื่อของการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปลักษณ์ให้ทันสมัยขึ้น การแข่งขันที่ดุเดือด และหลายต่อหลายปัจจัย จนซาเบนาต้องปิดตัวลงในที่สุด แต่การเดินทางด้วยสายการบินนี้ในปี 1986 มันช่างยอดเยี่ยมและแปลกใหม่ยิ่งนัก จากโทรอนโตเราบินไปสนามบินแห่งชาติบรัสเซลส์ และเมื่อมองไปที่กระดานประกาศเส้นทางการบินเหล่านั้น อาบิดจั ไนโรบี บามาโค แอลเจียร์ คาซาบลังกา ชื่อเมืองหรูๆของบางประเทศในยุโรป ไหนจะยังเมืองต่างๆอีกจำนวนมากในเอเชีย รวมถึงเส้นทางชื่อแปลกๆที่น่าพิศวงเหล่านั้น คุณต้องอย่าลืมว่านี่คือผมเมื่ออายุเพียง 22 เดินทางจากทวีปอเมริกาเหนือมายังอีกฝากฝั่งทวีปอันห่างไกลและไม่เป็นที่รู้จักนัก ใช่ ผมเคยเดินทางมาก่อน แต่นั่นก็แค่ท่องเที่ยวในทวีปยุโรปและประเทศแคนาดา คราวนี้จึงเป็นประสบการณ์เอี่ยมอ่องถอดด้ามที่แปลกใหม่ของผม ถามใครก็ได้ถึงความรู้สึกเมื่ออยู่ในสนามบินเมื่อพวกเขาเดินทางต่างประเทศครั้งแรก มันมีบางอย่างที่ช่างงดงามและน่าลุ่มหลงเสียยิ่งกระไร และไม่ว่าใครจะบอกคุณว่าเกลียดสนามบิน แต่เมื่อใดก็ตามที่เราได้เดินทางต่างประเทศ เราก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเบิกตาโพลงเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งกับการผจญภัยบนเส้นทางใหม่

ความรู้สึกของการผจญภัย …

ในขณะที่ผมกวาดตามองกระดานเส้นทางบินที่พลิกเปลี่ยนชื่อจุดหมายตลอดเวลานั้น ผมก็ได้เห็นชื่อ “กรุงเทพ” ในที่สุด ที่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้ายของการเดินทางในครั้งนี้ ผมจะต้องใช้เวลาอีกสิบสี่ชั่วโมงกว่าจะถึงจุดหมาย และเครื่องบินก็เป็นเครื่องที่เก่าแต่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีRead more...

อ่านต่อไป...

ประเทศไทยอยู่ที่ไหน?

ประเทศไทยอยู่ที่ไหน?

คุณจะถูกส่งไปที่ประเทศไทย” ปลายสายที่โทรเข้ามากล่าว เสียงของเธอคล้ายลังเลปนขอร้อง เหมือนเธอหวังว่าการโทรแจ้งข่าวผมในครั้งนี้จะเป็นความจริงเสีย ‘เอาเถอะ ตามสบาย’ ผมคิดในใจและความเงียบก็คือคำตอบของผม เป็นครั้งที่สามแล้วในรอบสามเดือนที่ผมต้องรับสายเช่นนี้ โทรมาแจ้งแล้วยกเลิก ก็คงเหมือนที่ผ่านมา ครั้งนี้ก็คงถูกยกเลิกอีก ผมคงไม่บ้ารีบพุ่งตรงไปยังห้องสมุดเพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยเหมือนที่ผมเคยทำตอนได้รับสายแบบสองครั้งที่แล้วมาหรอกนะ

เมื่อผมอ่านประโยคสุดท้ายอีกครั้งและคิดถึงการไปห้องสมุดเพื่อค้นหาหนังสือ มันอดจะกระทบใจไม่ได้ที่โลกเราได้เปลี่ยนไปอย่างมากตลอดสามสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีใครไปห้องสมุดเพื่อค้นหาหนังสืออีกแล้วนอกจากนักเรียนที่จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลหนังสือเรียนของมหาลัย แต่ยังไม่มีอะไรเทียบได้การนั่งบนเก้าอี้ที่สุดสบายในห้องสมุดแล้วค่อยๆเปิดหนังสืออ่านอย่างช้าๆ เลื่อนอ่านย่อหน้าต่อย่อหน้าอย่างไม่เจาะจงและปล่อยจินตนาการไปกับตัวอักษร หรือบางครั้งความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นก็ผุดขึ้นระหว่างการอ่านหนังสือเล่มแรกนั่นแหละ จนต้องลุกขึ้นไปค้นหาหนังสือเล่มใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนั้นเพื่อค้นหาต่อ แล้วกลับมานั่งในมุมโปรดที่เงียบสงบ หรือแม้แต่การปล่อยใจไปกับหนังสือภาพที่ไร้ตัวอักษรหรือข้อความบรรยายใดๆ ภาพพิมพ์สีสันสดใสบนกระดาษมันเงาของหนังสือเล่มเขื่องที่เหมาะกับใช้ประดับห้องนั่งเล่น ดังประโยคคุ้นเคยที่เรารู้จักดี A picture speaks a thousand words.” และบางครั้งภาพถ่ายก็บรรยายความรู้สึกของจินตนาการที่ไร้ขอบเขตได้ดีและมากเกินกว่าที่จะบัญญัติเป็นคำพูดได้

คุณปล่อยใจได้ตามสบาย จะอ่านแล้วใช้จินตนาการอย่างไร แค่ไหน เกี่ยวกับสถานที่และประเทศเหล่านั้นก็ได้ ความคิดคุณเปิดกว้างไปตามตัวอักษรและรูปภาพที่เห็น มันอาจจะจริงหรือไม่จริง ไม่มีอะไรมากำหนดว่าความคิดและจินตนาการของคุณถูกหรือผิด ตราบใดที่เท้าคุณยังไม่ได้สัมผัสผืนแผ่นดินจริงของสถานที่และประเทศเหล่านั้น มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะฝันไปให้ไกลและเท่าที่คุณต้องการ ไม่เหมือนทุกวันนี้ซึ่งเป็นแค่การท่องข้อมูลออนไลน์จิ้มนิ้วพิมพ์ชื่อประเทศ และข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างก็ปรากฏอยู่บนหน้าจอ มีเวปเป็นหมื่นเป็นพันที่มีข้อมูลที่คุณจะต้องค่อยๆตรวจและเสาะหากว่าครบถ้วน และไม่หลงเหลือเวลาจะได้ใช้จินตนาการฝันถึงดินแดนที่ไม่รู้จัก เพราะสมัยนี้ใครๆก็ออนไลน์และตั้งตนเป็นนักวิจารณ์ พวกเราไม่มีอินเตอร์เน็ตในสมัยนั้นและเราก็แทบจะไม่มีคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ก็ช่างขนาดใหญ่ยักษ์ น่าตลกที่สามสิบปีสามารถสร้างความแตกต่างได้ถึงเพียงนี้

ครั้งที่สาม…

และสายที่โทรเข้านี้ก็กำลังบอกว่าผมจะได้เดินทางไปประเทศไทย นี่เป็นครั้งที่สามแล้วในเดือนพฤษภาคมที่ผมได้รับสายแจ้งเรื่องงานและจุดหมายที่จะไป รอบแรกบอกผมว่าผมจะได้ไปปาปัวนิวกินี Read more...

อ่านต่อไป...