การย้ายระหว่างที่พัก

ข้อผิดพลาดด้านที่พัก

อุณหภูมิเริ่มเย็นและอากาศเบาบางลง ผมตื่นแต่เช้า อาบน้ำ แพ็คสัมภาระ พอถึงเวลาแปดโมงผมลงมาชั้นล่างเพื่อออนไลน์หาที่พักใหม ่เพราะผมจะไม่พักที่นี่ต่ออีกคืนเป็นแน่ ราวเก้าโมงเช้าที่เซิร์ชหา ผมก็เจอห้องพักที่หนึ่งดูพอใช้ได้และอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ทำการจอง จ่ายเงินผ่านแอปออนไลน์ ผมเดินทางไปยังที่พักตามแผนที่ ตัดสินใจเดินลงจากเขาเพราะมันเป็นทางลงหรืออย่างน้อยระดับก็ไม่ชันมาก ผมพบถนน และเริ่มมองหาเลขที่บ้าน ติดต่อผู้จัดการห้องพักสำเร็จ ได้รับเส้นทางที่พักมาใหม่ ในที่สุดผมก็หาเจอ และค้นพบว่าผมเดินผ่านมันไปหลายรอบมากระหว่างค้นหาที่พักก่อนหน้านี้ ติดต่อผู้จัดการผ่านวอทส์แอป (whatsapp) อีกครั้ง เพื่อขอเข้าทางประตูหน้า แต่ถูกบอกให้กลับมาอีกทีตอนบ่ายสองเพื่อเช็คอิน ผมถามว่าทำไมในเมื่อผมมาถึงที่พักแล้ว และอย่างน้อยผมก็อยากฝากกระเป๋าไว้ก่อนจะได้ไม่พะรุงพะรังเวลาเดินเที่ยว ได้รับการตอบกลับสองสามนาทีหลังจากนั้นว่ายังไงผมก็ต้องกลับมาอีกทีตอนบ่ายสองเพราะว่า ‘ผู้จัดการ’ กำลังอยู่ในชั้นเรียนที่มหาลัย

ด้านหน้าของที่พักปิดประตูเหล็ก ไม่มีป้ายใดๆ แค่บ้านเลขที่เล็กๆ เมื่อแขกที่พักอยู่ข้างในเดินออกมา ผมจึงผ่านเข้าไปได้เพราะผมไม่มีกุญแจ ทางเข้านำไปยังที่จอดรถ ที่ระเกะระกะไปด้วยอุปกรณ์ก่อสร้าง มีมอเตอร์ไซต์จอดอยู่ และสิ่งก่อสร้างอะไรสักอย่างที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นเคาเตอร์รีเซฟชั่นและบันไดสู่ชั้นบน เดินขึ้นบันได เห็นได้ว่าตึกถูกดัดแปลงเป็นอพาร์ทเม้นท์ หรือห้องพักซึ่งยังคงก่อสร้างอยู่ ผมหันหลังกลับหลังจากเดินขึ้นไปถึงชั้นสาม โชคดีที่ผมสังเกตว่าประตูผลักเปิดออกได้จากด้านในโดยไม่ต้องใช้กุญแจ ผมเดินออกไปและตั้งใจว่าต้องหาที่พักอื่นสำรองอาไว้ด้วย ในที่สุดผมก็เจออีกที่หนึ่งไกลออกไปสามกิโลอีกฝากของเมือง ค่อยๆเดินกลับ ผ่านตรอกและถนนในคูซโก ผมเข้าพักแล้วจัดการกับปัญหาที่พักก่อนหน้าที่เวปจองห้องพักชาร์จเงินผมไปแล้ว ปาเข้าไปเกือบเที่ยงกว่าผมจะได้เดินกลับเข้ามาในเมืองและหาร้านอาหารในตลาดสำหรับมื้อกลางวัน

ช็อคโกแลต

หลังจากใช้เวลากว่าหนึ่งวันเดินเที่ยวชมเมืองคูซโกทุกตรอกซอกซอย ผมตั้งตาคอยวันถัดไป ที่ผมวางตารางไว้ว่าจะเดินทางลงใต้ คูซโกเริ่มแพง อากาศยังดีอยู่ Read more...

อ่านต่อไป...

ชีวิตในเกมโชว์ทางโทรทัศน์

จากเกษตรกรรมสู่โทรทัศน์ …

ผมควรจะเริ่มต้นทิศทางการเขียนใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับปัจจุบัน แต่หากปราศจากที่มาที่ไป จะมีปัจจุบันได้อย่างไร ผมจึงจำเป็นต้องเท้าความถึงอดีตและจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งปวง บางครั้งชีวิตมีการหักมุมแปลกๆ และย้อนกลับไปเมื่อตอนผมอายุ 25 อยู่ในประเทศที่แปลกประหลาดและวัฒนธรรมที่มีภาษายากเกินกว่าจะเข้าใจ ผมยอมรับว่ามีหลายครั้งในช่วงการทำงานสองปีแรกที่แทบจะถอดใจเก็บกระเป๋าแล้วจองเที่ยวบินแรกกลับบ้าน เมื่อเกิดอารมณ์นั้นขึ้น ผมอยากจะโทรหาสำนักงานที่กรุงเทพฯ และด้วยคำพูดทื่อๆไม่กี่ประโยคที่ชัดเจนว่าผมเกินพอแล้ว พวกเขาก็น่าจะจับผมขึ้นเครื่องเที่ยวถัดไปแล้วส่งไปไหนสักที่ ที่ไหนก็ได้ ไม่แคร์แล้ว ณ จุดนี้ ขอให้พ้นจากประเทศไทยเป็นใช้ได้ แต่ทุกครั้งพวกเขาก็จะบอกให้ผมไปทะเลในช่วงวันสุดสัปดาห์ หรือไปเที่ยวเขา เข้าร่วมงานสังสรรค์หรืออะไรสักอย่างสักสองสามวัน และหลังจากได้ปลีกตัวไปพักผ่อนสักอาทิตย์ ชีวิตก็ดูเหมือนจะง่ายขึ้น น่าสนใจขึ้น แล้วหลังจากนั้นงานก็ดูเหมือนจะไม่เลวร้ายอีกต่อไป

และเมื่อผมใกล้จะหมดสัญญาปีที่ 3 ผมเริ่มมองหาโอกาสใหม่ๆ ดูเหมือนจะมีงานกับบริษัทหนึ่งที่ทางภาคเหนือ หรือไม่ก็บินกลับแคนาดาแล้วทำตัวให้คุ้นเคยกับสังคมที่นั่น ไม่ว่าจะทางเลือกไหนก็ไม่มีอะไรแย่สำหรับผม แต่หากได้งานที่เมืองไทยก็ย่อมดีกว่าเพราะภาษีและค่าครองชีพนั้นถูกกว่าเยอะ และในขณะที่ผมรอคำตอบ เดือนกันยายนก็สิ้นสุดลงอย่างช้าๆ พร้อมการเริ่มต้นของเดือนตุลา ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายก่อนหมดสัญญา ทุกอย่างเคลื่อนไปอย่างเชื่องช้า และแล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แล้วใครคนหนึ่งก็ชะโงกหัวมาบอกผมถึงสายที่เรียกเข้าจากกรุงเทพฯ ถึงจะไม่รู้ว่าใครโทรมา แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพื่อนคนไหนสักคนโทรมาชวนไปกินข้าวหรือไม่ก็ไปไหนสักที่ด้วยกันช่วงสุดสัปดาห์ ผมลุกขึ้นเดินเอื่อยๆอย่างไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนักไปยังส่วนหน้าออฟฟิศเพื่อรับสาย

โทรศัพท์ …

สรุปว่าไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นเพื่อนของเพื่อนของหนึ่งในครูสอนภาษาไทยของผมเมื่อสามปีก่อนที่ผมยังติดต่ออยู่แต่ไม่บ่อยนัก สิ่งที่อธิบายถึงเหตุผลที่โทรมานั้นน่าสนใจยิ่งนัก และผมก็ไม่แน่ใจนักว่าควรจะตอบกลับอย่างไร ยาวและสั้นของเรื่องนี้ก็ประมาณว่า คนที่โทรหาผมโทรมาในนามของผู้ผลิตการสร้างรายการเกมโชว์ทางทีวีรายการดังที่สุดในเมืองไทย รายการ “มาตามนัด” ในขณะนั้นได้ชื่อว่าเป็นรายการที่เรตติ้งพุ่งทะลุเพดาน Read more...

อ่านต่อไป...

ขบวนพาเหรด ข้อผิดพลาดและพลาซ่า

ขบวนพาเหรดและอาหาร

และแล้วเช้าวันอาทิตย์ก็มาถึง ด้วยอุณหภูมิที่เย็นลงแต่บรรยากาศสดใส มีอะไรหลายอย่างมากที่ผมต้องทำในระหว่างวัน รวมถึงสรุปแผนการเดินทางไปมักชูปิกชู นัดพบเจ้าของบ้านที่ผมจะไปพักอีกสองคืน สำรวจตลาด ซักรีดเสื้อ จองที่พักในคูซโกและอากัวคาเลียนติ และอื่นๆ ผมกลับไปจตุรัสกลางเมือง ส่งผ้าที่ร้านซักรีดระหว่างทาง เมื่อถึงจตุรัส ผมได้ยินเสียงดนตรีและกลอง สังเกตเห็นคนกลุ่มใหญ่ยืนออกันอยู่ข้างทาง ถนนและจตุรัสถูกปิดกั้นด้วยการจราจรที่คลาคลั่งไปด้วยผู้คน มองเห็นจากในระยะไกล จุดที่เป็นตลาด ขบวนพาเรดกำลังเริ่มเคลื่อนตัวไปยังจตุรัส ผมเดินตามไปดู และเห็นหัวขบวนกำลังเริ่มแสดง ตามหลังมาติดๆคือกลุ่มคนในชุดประจำชาติของอินคาสีสันสดใส ผมไม่สามารถบอกได้ว่าเนื่องในเทศกาลอะไร ถึงแม้ว่าผมจะสังเกตเห็นใครบางคนในขบวนนั้นเดินถือกระโหลกชูไปมา หัวหน้าเผ่านำกลุ่มเด็กหนุ่มสาวติดตามไปตามเส้นทางมุ่งสู่จตุรัส ผ่านตาผมไป ด้วยริ้วป้ายและกระโปรงปลายพริ้ว ผมเดินตามไปสักพักก่อนที่จะเจออีกประตู ที่จะพาผมไปสู่ตลาด

ท้องเริ่มร้อง และเมื่อเดินต่อไปในตลาดผมเห็นโต๊ะตั้งเรียงต่อกันและในครัวก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร บรรยากาศคล้ายที่ผมเห็นในตลาดในประเทศไทย และเมื่อผมเดินดูรอบๆ พยายามจะสื่อสารด้วยภาษาท้องถิ่น โชคร้ายที่ทักษะภาษาผมไม่ดีพอที่จะสั่งเมนูอะไรที่มีเอกลักษณ์ และต้องลงเอยชี้ไปยังจานที่ดูน่าสนใจ เพราะรู้ว่าต้องเสิร์ฟเป็นเซ็ตพร้อมซุปและน้ำดื่ม แทรกตัวลงนั่งที่โต๊ะหัวมุม ท่ามกลางกลุ่มคนที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารมื้อสายในวันอาทิตย์ สักพักหลังจากนั้น ผมได้สมทบกับคู่รักชาวเปรูที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและได้กลับมาเยี่ยมครอบครัวที่คูซโก บทสนทนาแวดล้อมไปด้วยเรื่องอาหารและการเดินชมตลาดในประเทศต่างๆทั่วทุกมุมโลก

เมื่อผมเดินเข้าไปในตลาด ผมสังเกตเห็นพวกแผงขายผลไม้เล็กๆ ที่มีม้านั่งและเครื่องปั่นน้ำผลไม้ อิ่มกับอาหารก่อนหน้าที่จ่ายเพียงสามเหรียญ ถึงเวลาที่จะต้องหาน้ำผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพดื่มเสียหน่อย มะม่วงคือผลไม้โปรดของผม Read more...

อ่านต่อไป...

การเขียนบล็อกเกี่ยวกับการเดินทางและชีวิต

บล็อก: 6 เดือนกับข้อมูลและความบันเทิง

วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนติดปีก ตั้งแต่บล็อกแรกที่อัพโหลดเมื่อหกเดือนก่อนจนถึงปัจจุบัน ความตั้งใจทำโปรเจคท์นี้เป็นสิ่งที่ดี ทำให้ผมมีความมุ่งมั่นผลิตงานเขียนต่อไปทุกอาทิตย์ สองบันทึกความทรงจำต่างเส้นทาง การท่องเที่ยวทั่วทวีปอเมริกาใต้และประสบการณ์การทำงานในประเทศไทย

มองย้อนกลับไปช่วงแรกที่เริ่มเขียนบล็อก ผมสงสัยตัวเองว่าเอาพลังมาจากไหนกัน บล็อกเกอร์คนอื่นๆก็คงเหมือนผม เขียนสองตอนต่ออาทิตย์ไม่น่าจะยุ่งยากอะไรนัก คงไม่ต่างจากนักศึกษาที่เขียนเรียงความสองพันคำส่งอาจารย์ แต่เอาเข้าจริงมันกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ยิ่งคุณมีงานประจำที่หนักหน่วง ไหนจะการใช้ชีวิตและงานสังคม (ยังดีมีเพื่อนคบ) และมักจะมายุ่งตอนที่ผมมีอารมณ์อยากจะเขียน แล้วการเขียนบล็อกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องเรียบเรียงเหตุการณ์ ชื่อ และสถานที่ต่างๆ สารพัดข้อมูลที่ต้องจดจำ และบางครั้งยังต้องตรวจสอบค้นหาข้อมูลเพิ่ม ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างมาก ผมเหลือบดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือ และเห็นสายที่ไม่ได้รับ รวมทั้งข้อความที่อัดทะลักอยู่ในอินบ็อกซ์ที่ยังไม่มีเวลาเช็คแต่การเขียนก็เสมือเป็นรางวัล การเดินทางสู่ห้วงเวลาในอดีตและดึงมันให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ความทรงจำอันสวยงามที่ได้มีโอกาสระลึกถึง แม้จะบันทึกลงRead more...

อ่านต่อไป...

สูงในเทือกเขาแอนดิส ในเปรู

เมืองหลวง Inca

หลังจากดื่มด่ำกับอรรถรสการฟังเพลงบรรเลงของ Bach ในลิมา ผมเดินทางต่อไปยังคูซโกในเช้าวันรุ่งขึ้น ทัวร์ที่ผมจัดขึ้นคือการเริ่มต้นจากที่นี่จากตารางที่จัดไว้ล่วงหน้า ผมจะใช้เวลาหนึ่งหรือสองวันที่คูซโก แล้วจึงไปร่วมกับกลุ่มที่จะไปมาชูปิกชู และจากที่นั่นต่อไปยังพื้นที่อื่นๆของเปรูตอนใต้ ผมจองโรงแรมเล็กๆในคูซโก หรูหรากับการมีห้องส่วนตัวสำหรับผมเพียงคนเดียวสักคืน ย้ายจากระดับน้ำทะเลมาที่ความสูง 3,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในเวลาน้อยกว่าสองชั่วโมงและตระหนักถึงความมึนศีรษะและไม่สบายตัวทันทีที่เท้าแตะสนามบิน ผมเดินไปยังตึกผู้โดยสารขาออก หยิบกระเป๋า โบกแท็กซี่ไปยังที่พักมันเป็นช่วงเที่ยงตอนผมไปถึง และสภาพอากาศดีมาก เช็คอินและจัดแจงตัวเองเสร็จ ผมก็เริ่มออกมาตะลุยเมือง พูดง่ายแต่ทำยากเพราะผมเคลื่อนตัวได้อย่างเชื่องช้ากว่าที่ลิมามาก และหายใจแทบไม่ทัน หลังจากเดินขึ้นบันไดไปได้แค่ไม่กี่ขั้น แล้วมันก็มีบันไดเป็นพันๆขั้นรอบเมือง

คูซโกเป็นเมืองเก่าซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอินคา ไม่แปลกใจที่มันเป็นจุดเริ่มต้นการทัวร์ “ประสบการณ์แอนเดียน” ที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นพันๆคนในแต่ละวัน ท่องไปในพื้นที่ต่างๆไม่ใช่เฉพาะแค่ในคูซโก แต่ต่อไปนอกเมือง ถนนราดหินปูทาบตลอดเส้นทางเดินขึ้นไปถึงเนินเขา แล้วก็ทำให้พวกนักท่องเที่ยวหน้าใหม่หอบแฮ่กในไม่ถึงอึดใจ จตุรัสกลางเมือง Plaza de Armas หรือที่รู้จักกันในนาม จตุรัสนักรบผู้กล้าแห่งอินคา รายล้อมไปด้วยร้านค้าและสิ่งปลูกสร้างทางศาสนา รวมถึงวิหารคูซโก มีตึกสไตล์สเปนมากมายทอดตัวต่อจากพลาซา หลายอาคารแนวสเปนนี้สร้างครอบทับตึกเก่าในยุคอินคา รวมถึงโบสถ์แห่งนี้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นวังของกษัตริย์

ใช้เวลาในการเพลิดเพลิน

เดินลัดเลาะไปตามเส้นทางในช่วงบ่าย ผ่านพลาซาและโบสถ์มากมาย รวมถึงตึกรามเก่าๆ ตามตรอกมีร้านรวงเปิดเรียงไปตลอดเส้นทางและขายสินค้าหน้าตาเหมือนในลิมา บางตรอกเต็มไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยวที่กำลังเดินหาที่พักหรือร้านอาหาร เมื่ออาทิตย์ค่อยๆละฟ้า อุณหภูมิเริ่มลดต่ำลง Read more...

อ่านต่อไป...